23 มี.ค. 2568 ศ.ดร.นฤมล นิราทร อดีตอาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสนใจศึกษาประเด็นหาบเร่แผงลอยมาอย่างยาวนาน เขียนบทความ “Hawker Centres ที่สิงคโปร์” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก “Narumol Nirathron” เนื้อหาดังนี้
ไปสัมผัส Hawker Centres (HC) ที่สิงคโปร์ปลายเดือนที่ผ่านมา นักวิชาการคนสำคัญคือ Dr.C.K.Lai ที่ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ HC และเป็นเพื่อนของ อ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ นอกจากจะเล่าจุดเริ่มต้นของ HC แล้ว ยังพาไปสัมผัส HC หลายแห่งในหลายพื้นที่ เช่น Balestier Market (Hawker Shelter แห่งแรกๆ) Ang Mo Kio HC, Kampung Admiralty HC, Whampoa HC, Chinatown เป็นต้น
HC เหล่านี้สร้างในช่วงเวลาต่างๆกัน และมีรูปลักษณ์ต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่สร้าง และบริบทของพื้นที่ แม้จะมีโครงสร้างพื้นฐานใกล้เคียงกัน Dr.Lai ไล่เรียงจุดตั้งต้นของความพยายามในการย้ายผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ตั้งแต่ปี 1908 (2451) จนถึงการสร้าง Hawker Shelter แห่งแรกในปี 2465 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Hawker Centre หลังสิงคโปร์ประกาศเอกราชในปี 2508 ประวัติศาสตร์ของ HC สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นต่างๆในการเชื่อมโยงการแก้ปัญหาสาธารณสุข สิ่งแวดล้อมอันเป็นผลจากการค้าริมทางกับการพัฒนาเมือง ที่อยู่อาศัย การรักษาความมั่นคงทางอาหารและวัฒนธรรมอาหาร ไปจนถึงความสำเร็จของสิงคโปร์ในการขึ้นทะเบียน วัฒนธรรมหาบเร่แผงลอย (Hawker Culture) เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติในปี 2563
Hawker Centre ของสิงคโปร์ก็คือศูนย์อาหาร HC บางแห่งมีแผงอาหารสดอาหารแห้งด้วย บทบาทหน้าที่ไม่ได้ต่างจากศูนย์อาหารและตลาดหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร จะผิดกันก็ตรงที่การบริหารจัดการ การกำกับดูแลกวดขันเข้มงวด ทั้งด้านสุขาภิบาลอาหาร การจัดการสิ่งแวดล้อม การพัฒนาผู้ค้า และการพัฒนาการจัดการอย่างต่อเนื่อง
โมเดล HC ของสิงคโปร์มีความเฉพาะเหมาะกับบริบทของเขา การไปมองว่า HC จะเป็นโมเดลจัดการหาบเร่แผงลอยในบ้านเราก็ดูจะโบราณไปหน่อย (แม้จะใช้ชื่อ ก็ยังน่าคิด!) น่าจะมุ่งไปที่การปรับปรุงคุณภาพ เข้มงวดกวดขันมาตรฐานอาหาร สุขาภิบาลอาหาร พัฒนาผู้ค้าและอื่นๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ค้าและผู้บริโภคในศูนย์อาหารที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วมากกว่า การจัดการหาบเร่แผงลอยในกรุงเทพมหานครต้องการคำตอบที่กว้างขวางและหลากหลายกว่าการตั้งศูนย์อาหาร หรือ การรวมผู้ค้าไว้ในที่เดียว ที่สำคัญการจัดการที่มุ่งตอบโจทย์เชิงพื้นที่ทำให้มองข้ามศักยภาพด้านอื่นๆไปอย่างน่าเสียดาย
HC ในสิงคโปร์กำลังเผชิญความท้าทายอยู่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ต่ำ เนื่องจากต้นทุนสูง ทั้งค่าเช่า ค่าแรง ต้นทุนอาหาร และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ประชาชนคาดหวังว่าอาหารใน HC ควรจะย่อมเยาจะขึ้นราคาก็ลำบาก ผู้ประกอบการก็อายุมากขึ้น รัฐบาลสิงคโปร์มีมาตรการจำนวนหนึ่งในการจัดการกับความท้าทายตรงนี้
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี