“มีความคิดอยากยกป่ามาไว้ที่บ้าน จึงเปลี่ยนจากสวนมะม่วงมาปลูกป่าไม้จำนวน 3 ไร่ เพื่อการเก็บเกี่ยวของป่า กระทั่งในปี 2557 ส.ป.ก.บึงกาฬ ได้เข้ามาสำรวจป่าไม้ จึงทำให้เกิดความคิดในการปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรแบบวนเกษตรผสมผสาน และได้นำมาปรับใช้ในแปลง จึงเริ่มปลูกป่ามากขึ้นและมีรายได้จากการปลูกป่าโดยการเลี้ยงผึ้งป่า ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับครอบครัว”
นายประสพ ชาญประเสริฐ เกษตรกรในพื้นที่หมู่ 9 บ้านคำชมภู ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ เล่าถึงความสนใจหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ จากชาวสวนยางพารา เพิ่มเติมด้วยการปลูกมะม่วง และปรับเปลี่ยนสู่วิถีวนเกษตร ปลูกพืชหลายชนิดเพื่อจำลองสภาพป่าตามธรรมชาติให้เกิดระบบนิเวศเกื้อกูลกัน จากพื้นที่ทั้งหมด 29 ไร่ หักที่อยู่อาศัย 1 ไร่ อีก 28 ไร่ที่เหลือ แบ่งเป็นสวนยางพารา 18 ไร่ ปลูกต้นยางนา 4 ไร่ และทำระบบวนเกษตรอีก 6 ไร่
ปัจจุบันมีการปลูกไม้ป่า เช่น พยุง ยางนา สักทอง ตะเคียน ไม้แดง ไม้เต็ง ปลูกไม้กินได้/ผลไม้/สมุนไพร เช่น ข้าว กล้วย มะม่วง มะนาว ไผ่หวาน อีกทั้งยังเลี้ยงปลาและเลี้ยงผึ้ง โดยมีน้ำผึ้งป่าเป็นสินค้าสำคัญ มีรายได้จากภาคเกษตรเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อปี และมีองค์ความรู้สำคัญคือการปลูกป่าแบบผสมผสานและการเลี้ยงผึ้ง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี