■■ เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิด “แนวหน้า”มีข้าราชการ 2 เขต 3 ท่านคุยกับ “ไผ่ฎำ” โดยระบุว่าห่วงใยปัญหาชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนที่ถูกน้ำกัดเซาะและวันนี้กทม.สูญเสียแผ่นดินเพราะน้ำทะเลกลืนกินไปแล้วนับจากหลักเขตกลางทะเลถึงชายฝั่งเกือบ 2 กิโลเมตรกว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวหากปล่อยกันไว้เช่นนี้ก็น่าเชื่อได้ว่าอีก 10-20 ปี ต่อจากนี้ไปถนนพระราม 2 ถนนที่มีคานสะพานตกถล่มคร่าชีวิตผู้คนอยู่บ่อยๆ ตรงนี้อาจเป็นถนนชายทะเลแห่งใหม่ ซึ่งถ้าเป็นจริง กทม.ประเทศไทยก็จะเสียแผ่นดินให้กับน้ำทะเลกลืนกินสุดน่าสะพรึงกลัวยิ่งทีเดียว เพราะฉะนั้นไม่ได้แปลว่าแผ่นดินตรงนั้นเพียงแห่งเดียวที่จะจมหายลงทะเล แต่มันอาจหมายถึงภาพรวมของ กทม.ทั้งหมดที่ต้องเผชิญ หากผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบทุกฝ่ายยังหูหนวกตาบอดสี แถม สำคัญผิดคิดว่ามันคือธรรมชาติที่ “กลืนได้ก็คายได้” ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเหมือน “ราหูอมจันทร์” เพราะเมื่อน้ำทะเลกัดกลืนกินโดยที่ทุกฝ่ายนิ่งเฉยดูดาย แผ่นดินจมหายไม่กลับคืนแน่นอน...
■■ ในข้อเท็จจริงเรื่องนี้วันนี้ถ้าถามว่า กทม.หน่วยงานเดียวจัดการแก้ไขได้หรือไม่ คำตอบที่ไม่อาจดัดจริตใดๆ คือ กทม.ทำได้แก้ได้ ถ้ารัฐบาลทุ่มเทงบประมาณลงมาให้เป็นกลุ่มก้อน อย่าลืมน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนปัจจุบันปล่อยกันไว้จนเป็นปัญหาระดับชาติแล้ว ดังนั้นการจัดสรรงบประมาณต้องเพียงพอกับการที่จะให้ กทม.หน่วยงานเดียวหามาตรการแก้ไข หรือเรียกคืนแผ่นดินแน่นอนสิ่งที่ กทม.วางแนวทางแก้ไขไว้ก่อนหน้า คือการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเล วิธีการดังกล่าวประเทศที่มีปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะไม่ว่า สิงคโปร์, เกาหลี, ญี่ปุ่น เขาทำ และประสบผลดีเยี่ยมเป็นแม่แบบอยู่แล้วแต่โครงการของเขารัฐบาลร่วมเป็นเจ้าภาพสนับสนุนการเงินเต็มกำลัง...
■■ พูดตรงไปตรงมาสำหรับชายทะเลฝั่งทะเลบางขุนเทียน ณ วันนี้ กทม.หน่วยงานเดียวหากขาดงบประมาณไม่มีทางทำได้ ก่อนหน้านี้การก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลก็มีกลุ่มคนสมองทึบ สมองบวม ออกมาอธิบายเป็นตัวอย่างชุ่ยๆ ว่า “การก่อสร้างเขื่อนจะสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาล” ถือเป็นความคิดของคนมองความจำเป็นไม่ออกไม่เป็นเลยเพราะไม่สร้างวันนี้ก็ไม่ได้แปลว่าอนาคตเครื่องไม้เครื่องมือหรืออุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ จะถูกลง คนพวกนี้พูดเพียงเพื่อได้พูดเท่านั้น ไม่ได้มองถึงปัญหาใหญ่แห่งอนาคตของ กทม.ที่ อาจจมบาดาล โดยสรุปเวลานี้มีเพียงช่องทางเดียวที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไขป้องกัน คือ การก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเล ที่นอกจากจะได้เขื่อนป้องกันน้ำกัดเซาะถาวรแล้ว กทม.ยังได้การท่องเที่ยว การลงทุนต่างๆ ตามมามากมายแต่ถ้าไม่ทำไม่เดือดไม่ร้อนไม่ช้าไม่นานเราจะแลเห็นชายทะเลเลียบถนนพระราม 2 และภาพมรณะนี้จะอันตรายกับกรุงเทพมหานครอย่างสาหัสยิ่งทีเดียว...■■
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี