“ม็อบชาวนา” บุกสภา ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องสำคัญ ให้นายกฯอิ๊งค์ และรัฐบาล เร่งแก้ปัญหา ประกันราคาข้าว 1.1 หมื่นบาท/ตัน- จ่ายชดเชยไร่ละ 300 บาท สำหรับใช้พื้นที่นารับน้ำเป็นเวลา 3 เดือนต่อปี –จี้เลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวจี้นายกฯสั่งการช่วยเหลือด่วน
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่หน้าอาคารรัฐสภา กลุ่มชาวนาภาคกลางรวมตัวกันเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่กำลังอยู่ในระหว่างการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ ช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ-ปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งกำลังกระทบต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องของเกษตรกร โดยการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ มีการตั้งเวทีเล็กๆปราศรัยข้อเรียกร้อง มีชาวนาบางคนนำแผ่นป้ายที่ระบุความเดือดร้อนจากการทำกิน มาติดไว้บริเวณรอบพื้นที่การรวมตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง นำโดย ผศ.ณัฐธชลัยย์ มยูรศักดิ์ ที่ปรึกษานายกสมาคมศูนย์ชาวชุมชนประเทศไทยและนายกสมาคมรวมพลังสร้างสรรค์พัฒนาชาติไทย พร้อมนายฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย แกนนำกลุ่มเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกลุ่มชาวนา 13 จังหวัดภาคกลาง เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำต่อเนื่อง และประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอดำรงชีวิตและต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ประสบปัญหาภาระหนี้สิน และความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจวงกว้าง ถ้ารัฐบาลไม่แก้ไขอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในอนาคต
โดยนายฐิติวัฒน์กล่าวว่า ล่าสุดราคาข้าวเหลือไม่ถึง 6,000 บาทและบางพื้นที่เหลือเพียง 5,300 บาทต่อตันเท่านั้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 6,500-7,000 บาทต่อไร่ ซึ่งราคาที่ขายได้ยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และจนถึงขณะนี้ภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา ส่วนตัวเลขราคาข้าวที่รัฐบาลอ้างว่า ปัจจุบันข้าวขายได้ 8,000 กว่าบาท บวกค่าชดเชยอีกไร่ละ 1,000 บาท ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เนื่องจากชาวนาเกี่ยวข้าวสด ความชื้นจะมากกว่า 15% จึงอยากเรียกร้องให้รัฐแทรกแซงราคาข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน เพื่อความอยู่รอดของชาวนา เพราะราคาขายจริงความชื้นจะอยู่ที่ประมาณ 27-28% หรือประมาณ 8,000 บาทต่อตันเท่านั้น หากยังปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อกลุ่มชาวนาอาจนัดเผาตอซังข้าวพร้อมกันวันที่ 1 เมษายนนี้
นายฐิติวัฒน์กล่าวต่อว่า กลุ่มชาวนามีข้อเรียกร้องสำคัญเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ 3 ข้อสำคัญคือ 1.ขอให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เสนอให้กำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน ความชื้นไม่เกิน 15% และจำกัดปริมาณรับประกันไม่เกิน 50 ตันต่อราย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้และลดความเสี่ยงจากราคาผลผลิตตกต่ำ 2.เรียกร้องเงินเยียวยาเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำ เสนอให้จัดสรรเงินชดเชยจำนวน 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนต่อปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่รับน้ำในช่วงฤดูฝน 3.ขอให้ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวในพื้นที่เกษตรกรรม โดยให้เหตุผลว่าชาวนาไม่มีทางเลือกอื่นในการกำจัดฟางข้าวหลังเก็บเกี่ยว หากไม่ยกเลิก ขอให้รัฐบาลตั้งงบประมาณรับซื้อตอซังข้าว เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และลดภาระต้นทุนในการจัดการของเกษตรกร
“ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลควรรีบพิจารณาและดำเนินการโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ขอรัฐบาลทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและมีข้อมูลไปพิจารณาเพื่อช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน” นายฐิติวัฒน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี