คดีดิไอคอนลากยาว

สืบพยาน18ก.พ.69

‘สามารถ-แม่’สู้คดี

ปฏิเสธข้อหาฟอกเงิน

ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คดี“สามารถ-แม่-บอสพอล”ฟอกเงิน ดิไอคอน 18 กุมภาพันธ์ 2569 อัยการเตรียมใช้พยาน 24 ปากเบิกความมัด ส่วนจำเลยมีพยาน 11 ปากหักล้าง ส่วนคดีฉ้อโกง ดิ ไอคอน อัยการใช้พยาน 100 ปาก สืบมัด ส่วนจำเลย มีพยาน 62 ปาก ใช้เวลา 50 นัด โดยฝ่ายโจทก์และจำเลยต้องพูดคุยกันเพื่อสรุปวันนัดสืบพยานอีกครั้ง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญ ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย และกำหนดนัดตรวจหลักฐาน คดีฉ้อโกง ดิไอคอน หมายเลขดำ อทย.14/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ1 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวกรวม 17 คน เป็นจำเลยฐาน ร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวงลงทุน

โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ ได้เบิกตัว จำเลยคนสำคัญในคดี อาทิ นายวรัตน์พล หรือบอสพอล นายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกัน กับจำเลยคนอื่น ทั้งชายหญิง จากเรือนจำมาฟังการพิจารณา ซึ่งต้องใช้การพิจารณาพอสมควร เนื่อจากจำเลยในคดีและพยานเอกสารจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ห้องพิจารณาคดี 704 เจ้าหน้าที่ได้สงวน 5 แถวแรกที่นั่งในห้องพิจารณาไว้สำหรับเป็นที่นั่งของจำเลย ส่วนแถวที่นั่งที่เหลือนั้นพบว่า มีบรรดาแม่ทีมและผู้ให้การสนับสนุน ดิไอคอนกรุ๊ป ที่มาให้กำลังใจจำเลยซึ่งนั่งกันจนล้นทุกแถวบางส่วนต้องยืนอยู่ข้างห้อง จำนวนกว่า 200 คน แต่ไม่พบว่ามีตัวแทนของผู้เสียหายเข้าร่วมการพิจารณาคดีในครั้งนี้ นอกจากพนักงานอัยการฝ่ายโจทก์

หลังจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ทยอยนำตัวจำเลยที่ถูกคุมขังจำนวนทั้งสิ้น 17 คน แบ่งเป็นจำเลยบอสหญิงคดีฉ้อโกง ดิไอคอนกรุ๊ป 6 คน และบอสชายจำเลยคดีฉ้อโกง 10 คน พร้อมกันนี้ ยังมี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ขึ้นมายังห้องพิจารณาคดีด้วย ระหว่างนั้น บรรดาผู้ให้การสนับสนุน ได้ลุกขึ้นยืนและยกมือไหว้กล่าวทักทายบรรดาจำเลยทั้งน้ำตา มีบางส่วนได้พยายามเข้ามาจับมือจับไม้จำเลย จนทำให้บอสหญิงจำเลยทั้ง 6 คนต่างร่ำไห้ออกมา ส่วนจำเลยผู้ชาย พบว่าส่วนใหญ่ รวมทั้งนายกันต์ ต่างมีสีหน้าเรียบเฉยค่อนข้างไปทางเคร่งเครียด ส่วนนายวรัตน์พล หรือบอสพอลมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและได้พยายามจับมือจับไม้ทักทายบรรดาแฟนคลับ

ต่อมา เมื่อจำเลยได้ขึ้นมายังห้องพิจารณาคดีแล้ว พบว่านายวรัตน์พล ได้มานั่งแถวหน้าสุดข้างแม่ของนายสามารถ เช่นเดียวกับบอสปันที่ได้มานั่งข้าง ๆ นายวรัตน์พล เช่นเดียวกัน ส่วนแถวที่ 2 กับแถวที่ 3 นั้น จำเลยชายและหญิงนั่งสลับกันไป ส่วนแถวที่ 4 นั้น มีจำเลยผู้ชาย 3 คนนั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือนายสามารถซึ่งนั่งอยู่แถวริมสุดฝั่งขวา โดยมีแฟนสาวของนายสามารถนั่งข้างได้จับมือสวมกอด และหอมแก้มกัน บางจังหวะนายสามารถได้ลุกขึ้นเดินไปหาแม่ที่นั่งอยู่แถวหน้าสุด โดยแม่ได้โอบกอดนายสามารถด้วย ส่วนญาติฝั่งนายกันต์นั้น ได้พูดคุยกับนายกันต์ มีการลูบหลังและกอดปลอบใจ ถึงขนาดร่ำไห้ออกมา

สำหรับบรรยากาศการนัดตรวจพยานในคดีฉ้อโกงของ ดิไอคอนกรุ๊ป นั้น พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยการถกเถียงกันของพนักงานอัยการและทนายฝ่ายจำเลย เนื่องจากพนักงานอัยการฝั่งโจทก์นั้นแถลงต่อศาลว่า มีพยานบุคคลจำนวน 7,991 ปาก แต่เสนอให้ดำเนินการสืบพยานเบื้องต้นก่อนจำนวน 109 ปาก ใช้เวลาประมาณ 27 นัด ซึ่งในระหว่างนั้น จะให้ฝ่ายจำเลยอ่านคำให้การของพยานบุคคลทั้ง 7,000 กว่าปาก หากมีข้อสงสัยในพยานบุคคลรายใด ก็จะได้ดำเนินการนัดหมายสืบพยานเพิ่มเติมต่อไป

พนักงานอัยการโจทก์ อ้างว่า อยากให้การสืบพยานเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ทนายความฝ่ายจำเลยไม่เห็นด้วย เพราะเนื่องจากอยากจะให้สืบพยานทั้งหมดกว่า 7,000 ปากให้แล้วเสร็จทีเดียว แม้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่า แต่อย่างน้อยก็เพื่อที่จะสามารถทำบัญชีพยานให้ชัดเจนและจะได้ไม่กระทบต่อสิทธิ์การยื่นประกันตัว ของจำเลยในระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งในประเด็นส่วนนี้นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปและอยู่ในระหว่างการพิจารณาพูดคุยของทั้งสองฝ่าย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงบ่ายวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าก่อนการเริ่มตรวจหลักฐานได้เกิดความวุ่นวายระหว่างที่พนักงานอัยการและทนายความฝ่ายจำเลยได้พูดคุยกัน พบว่า อาจจะต้องเลื่อนตรวจพยานออกไปก่อน ทำให้ผู้สนับสนุน ดิไอคอนกรุ๊ป เกิดความไม่พอใจ ตะโกนโห่ร้องเสียงดังลั่นห้องพิจารณา จนผู้พิพากษาได้สั่งเตือนว่าห้ามทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้อีก บรรยากาศจึงกลับเข้าสู่ความสงบ

ต่อมาเวลา 15.30 น. ภายหลังจากศาลตรวจหลักฐานคดีฉ้อโกงของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ของทั้ง 2 ฝ่ายเสร็จสิ้นแล้ว โดยใช้เวลาพิจารณา 6 ชั่วโมง

ศาลได้นัดสืบพยานทั้ง 2 ฝ่าย รวม 50 นัด โดยแบ่งเป็นฝ่ายโจทก์ 30 นัด และ ฝ่ายจำเลย 20 นัด โดยยังไม่มีการระบุวันนัดสืบพยานที่ชัดเจน ซึ่งทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยจะต้องพูดคุยกันเพื่อหาวันนัดสืบพยานอีกครั้ง โดยจะสืบพยานฝ่ายจำเลย 62 ปาก ซึ่งทนายความฝ่ายจำเลยจะเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลมาสืบพยานอีกครั้ง และฝ่ายโจทก์ 100 ปาก คัดจากบุคคล 7,991 ปาก โดยจัดกลุ่ม 6 กลุ่มโดยมีพนักงานอัยการฝ่ายโจทก์เป็นผู้บริหารจัดการฝ่ายโจทก์และดำเนินการคัดเลือกบุคคลมาสืบพยานจำนวน 6 กลุ่ม ให้ครบตามจำนวนนัดของฝ่ายโจทก์เพื่อนำมาสืบพยานตามกรอบเวลาที่ได้รับ ในส่วนของกำหนดวันสืบพยานนั้น พนักงานอัยการฝ่ายโจทก์และทนายความฝ่ายจำเลยจะต้องหารือกันเพิ่มเติมเพื่อกำหนดวันนัดหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีดำ ฟ.6/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดา ซึ่งได้รับการประกันตัว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ประธาน บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ฯและ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล จำเลย รวม 4 รายในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายสามารถ จำเลยที่ 1 นายวรัตน์พล หรือบอสพอล จำเลยที่ 3 จากเรือนจำมาฟังการพิจารณา ส่วนนางวิลาวัลย์ ซึ่งได้รับการประกันตัว เดินทางมาศาล

นางวิลาวัลย์ กล่าวสั้นๆ ก่อนขึ้นห้องพิจารณา ว่า ทั้งตนและลูกชาย ยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ และขอให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำพิพากษา เรื่องพยานหลักฐานต่อสู้คดีทนายความก็เตรียมไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องประกันตัวนายสามารถ ก็ได้พูดคุยกับทนายความมาโดยตลอด อยากให้ศาลเมตตาอนุญาตให้นายสามารถได้รับการประกันตัว มาสู้คดีภายนอก อยู่ในเรือนจำก็มีปัญหาสุขภาพบ้าง ตนไม่อยากให้ลูกชายอยู่ในเรือนจำเลย

สำหรับคดีการฟอกเงินของ ดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีนายสามารถและแม่เป็นจำเลยด้วยนั้น อัยการโจทก์ ยื่นพยานบุคคลจำนวน 24 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่รับผิดชอบคดี เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่รับจดทะเบียนบริษัท เจ้าหน้าที่ธนาคาร บุคคลใกล้ชิดของจำเลย และพยานเอกสารจำนวน 41 ฉบับ โดยโจทก์ขอสืบพยาน 6 นัด

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตและให้สืบพยานโจทก์ระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2569 และระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2569 ส่วนทนายจำเลย เสนอพยานบุคคล 11 ปาก ได้แก่ จำเลยในคดีนี้ทั้ง 3 ราย บอสปีเตอร์ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นักการเมืองที่เป็นอดีต สส. ของพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายควา และตัวแทนของวัดที่ได้รับเงินบริจาคจากแม่นายสามารถ โดยจำเลยขอสืบพยานจำนวนทั้งสิ้น 3 นัด

ศาลพิจารณาอนุญาตให้สืบพยานจำเลยระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2569 และระหว่างวันที่ 2-3 เมษายน 2569