26 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา(ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา) ได้สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12(ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย.ทพ.1201(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) จัดกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว บูรณาการกำลังร่วมกันออกลาดตะเวณป้องกันและสกัดกั้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ลักลอบข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา ตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดน ท้ายตลาดโรงเกลือ และบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายซีลเข้มชายแดนของ รัฐบาล และ กองทัพบก
ต่อมาลาดตะเวนป้องกันชายแดน มาถึงบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย 2 คน กำลังมุดรั้วลวดหนามกั้นชายแดนบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในฝั่งไทย จนท.จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและควบคุมตัวไว้ได้ทั้ง 2 คน พบว่าเป็นชายไทยทั้ง 2 คน ชื่อนายธนาวุธ แจ้งนิล อายุ 42ปี ชาว จ.ชลบุรี และนายอานนท์ แสงทอง อายุ 42 ปี ชาว จ.ระนอง ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตข้ามแดนแต่อย่างใด จึงร่วมกันควบคุมตัวมาทำการซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เบื้องต้นพบว่า นายธนาวุธ และนายอานนท์ รับว่าเดินทางกลับมาจากลักลอบเดินทางออกไปรับจ้างเปิดบัญชีม้าและสแกนหน้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ถูกเบี้ยวค่าจ้างแล้วถูกไล่กลับต้องเดินเท้าลักลอบข้ามแดนช่องธรรมชาติกลับไทยกลางดึกโดยทั้ง2คนอ้างว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 ได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวไทยที่ทำงานในประเทศกัมพูชา ติดต่อให้มาทำงานที่ปอยเปตฯเป็นเวลา 10วันจะได้เงิน 20,000 บาท โดยมีรถยนต์ยี่ห้อหรูเช่น โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ และ รถเก๋ง BMW ไปรับถึงบ้านพักจากต่างจังหวัด มาส่งที่ข้างห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
จากนั้นก็มีชาวกัมพูชามารับพาเดินเท้าลักลอบข้ามแดนช่องธรรมชาติออกไปฝั่งกัมพูชา แล้วถูกส่งตัวไปที่ตึก 6 ชั้น สีชมพู บริเวณตลาดพุทรา ในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา จากนั้นก็มีนายหน้าชาวกัมพูชามาบังคับให้ เปิดบัญชีธนาคารผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคาร ในโทรศัพท์มือถือของพวกตนคนละ 5 บัญชี ได้แก่บัญชีธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาติ, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
โดยจะมีชาวกัมพูชามาคอยสแกนใบหน้าผ่านแอปธนาคาร ทุกวัน จนถึงวันที่ 25 มี.ค.68 เวลาประมาณ 20.00 น.ได้มีชาวกัมพูชามาแจ้งว่างานเสร็จแล้ว เนื่องจากบัญชีธนาคารโดนระงับหมดแล้ว นายจ้างสั่งให้กลับไปได้ โดยให้เงินพวกตนมาคนละ 2,000 บาทเท่านั้น จากนั้นชาวกัมพูชาได้พาตนมาปล่อยทิ้งไว้บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ฝั่งปอยเปตฯแล้วบังคับให้พวกตนเดินเท้าลอดใต้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บริเวณช่องธรรมชาติ กลับเข้าฝั่งไทย จนมาถูก จนท.ทหารพรานตรวจพบและจับกุมได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนไทยทั้ง 2 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฏหมายและสอบสวนเพื่อขยายผลว่ามีส่วนร่วมหรือให้การสนับสนุนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาด้วยหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี