ระทึกกลางดึก!! ไฟไหม้อาคารเรียนไม้เก่าอายุกว่า 45 ปี เสียหายทั้งหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.ฉัตรชัย เดชพ่วง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคาเรียนภายในโรงเรียนหัวเขาราษฎร์บำรุง หมู่ 6 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมรถน้ำจากเทศบาลบ้านมุง อบต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก และ อบต.วังยาง เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนักจากอาคารเรียนไม้เก่าครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น อายุมากกว่า 45 ปี โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งระดมฉีดน้ำเป็นการด่วน แต่เนื่องจากอาคารเรียนดังกล่าวทำจากไม้และมีโต๊ะเก้าอี้หนังสือเรียนจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนวอดเสียหายหมดทั้งหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาดับเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ส่วนสาเหตุและมูลค่าความเสียหายต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน น.ส.วิลัยพร จันทะคูน ผอ.โรงเรียนหัวเขาราษฎร์บำรุง เปิดเผยว่า กลางดึกที่ผ่านมามีชาวบ้านแจ้งว่ามีเพลิงไหม้โรงเรียนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ สพป.พล.2 พิษณุโลก แต่ยังไม่ทราบว่าต้นเพลิงเกิดจากบริเวณใดต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบให้แน่ชัด เบื้องต้นได้สั่งการให้ประกาศหยุดเรียนก่อนเป็นเวลา 1 วัน เพื่อเคลียร์สถานการณ์เพราะเกรงว่าเดี๋ยวจะเป็นอันตรายกับเด็กนักเรียน ส่วนอาคารเรียนที่ถูกไฟไหม้นั้นเป็นอาคารเรียนไม้เก่าก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 อายุประมาณ 45 ปี ระดับชั้น ป.1 ถึง ป.6 มีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล รวม 43 คน ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาลได้งดการอยู่เวรยามของคุณครูเพื่อความปลอดภัย แต่ตอนเกิดเหตุมีชาวบ้านใกล้เคียงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ก่อนผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องจะเดินทางมาร่วมกันตรวจสอบ ส่วนการเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างประชุมหารือกับทุกภาคส่วน ซึ่งจะได้แจ้งให้ผู้มีจิตศรัทธาที่อยากจะช่วยเหลือทางโรงเรียนและเด็กๆนักเรียนอีกครั้งหนึ่ง

ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ได้มีชาวบ้านและคณะครูโรงเรียนได้ไปดูซากอาคารเรียน พบว่าไฟไหม้ทุกอย่างหมด ทั้งอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ขณะที่พระครูสุภัทรกิจวิบูลย์ รองเจ้าคณะอำเภอเนินมะปราง เจ้าอาวาสวัดเนินมะปราง พร้อมคณะสงฆ์ ได้นำน้ำดื่ม สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และเงินสดจำนวนหนึ่ง มามอบให้กับคณะครูและเจ้าหน้าที่โรงเรียน เพื่อร่วมช่วยเหลือและสนับสนุนให้กับทางโรงเรียนต่อไป ///-026