nn ถามกันมาต่อเนื่องทีเดียว เมื่อไหร่ตำรวจจราจรจึงจะมาขึ้นตรงกับ กทม.ทั้งๆ กทม.เองพร้อมรับอยู่เต็มร้อย ที่สำคัญ กทม.ก็เคยประชุมเตรียมการเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้งแล้ว อันไม่ต่างจากเรื่องของ “ดับเพลิง” ที่เคยอยู่กับตำรวจศักดินาเต็มขั้นห่างเหินประชาชน การทำงานไม่คล่องตัวไม่เหมือนเมื่อขึ้นตรงกับ กทม.แล้วดับเพลิง หรือที่เรียกว่า “ป้องกันสาธารณภัย” มีความขลังมีความเชื่อถือได้รับความร่วมมือเป็นกันเองจากประชาชนสูงมากที่สำคัญบุคลากรที่เปลี่ยนผันหรือโยกย้ายเข้ามาสวมเสื้อ “เสาชิงช้า”ก็เติบโตก้าวหน้ามีหลักประกันดีเยี่ยมทุกคน 

nn ในส่วนของตำรวจจราจรที่ประชุมพูดกันและสิ้นเปลืองน้ำแข็งเปล่าไปหลายครั้งหลายหนนั้น ว่ากันว่าปัญหาใหญ่ติดขัดปมเนื้อร้าย 2 ประการ
คือ ข้อแรกส่วนกลางรัฐบาลลิ้นไก่สั้น ของขวัญที่เป็นประโยชน์กับท้องถิ่นก่อให้เกิดความรวดเร็วคล่องตัวแก่ท้องถิ่นประชาชนควรได้รับฝ่ายการเมืองใหญ่ไม่ขยับดวงตาไม่เห็นธรรม ท่ามกลางตำรวจเองก็ห่วงอำนาจไม่อยากคาย พูดง่ายๆ การกระจายอำนาจดังกล่าวสู่ท้องถิ่นส่วนกลางยังมืดบอด 

nn ประการต่อมาข้อที่สองถือว่าสำคัญนอกจากรัฐบาลไม่แลเห็นความจำเป็นแล้ว บรรดา สส. ที่เข้าไปรับเงินเดือนจากประชาชนสมองยังตีบตัน 

nnมีเสียงพูดของประชาชนผู้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวบอกว่าวันนี้ถ้าพรรคประชาชนซึ่งมีคนหนุ่มสาวหัวก้าวหน้าสมองดีอยู่มากหน้าหลายตาออกมานำร่องแสดงความคิดอ่าน หรือผลักดันโอกาสที่ตำรวจจราจรจะเข้าร่วมอยู่ชายคาเดียวกับ “เสาชิงช้า”ย่อมมีสูง ยิ่งกว่านั้นคนหนุ่มสาวของพรรคประชาชน จะเป็นแรงกระเพื่อมทรงพลังดูดีด้วย ตรงนี้งานนี้นักการเมืองอายุมากสายตาฝ้าฟางมืดบอดความจำเป็นดังกล่าวอาจมองไม่ออกพูดไม่เป็น ดังนั้น พรรคประชาชนจึงเป็นความหวังเดียวที่พอจะขับเคลื่อนการโอนตำรวจจราจรขึ้นตรง กทม.ได้ 

nn เหนืออื่นใดข้าราชการ กทม.เองก็เฝ้าติดตามตลอดเช่นกันว่าสุดท้ายตำรวจจราจรจะมาอยู่กับ กทม. เมื่อไหร่วันไหน แต่ที่แน่ๆ เหตุประเด็นปัญหาไม่สะเด็ดน้ำก็สืบเนื่องจากเรื่องผลประโยชน์ 

nn พูดถึงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) วันนี้แม้จะมีปัญหาภายในเกี่ยวกับบุคลากรอยู่บ้าง แต่ภาพรวมการให้คะแนนการทำงานสำหรับตัว ผอ.สำนัก สุริยชัย รวิวรรณ 

nn ทำงานเข้าเป้าฝ่ายบริหารดีเยี่ยม แม้กระทั่งผู้ตรวจราชการบางคนก็ออกปากชมว่าสำนักเข้าใจคนเข้าใจงาน มีเหตุมีผลสูงเกี่ยวกับการสั่งการ ติดตามเนื้องาน 

nn ทิ้งท้ายด้วยเรื่องเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กทม.ยอดทะลุหลายหมื่นล้านบาทกองอยู่ในสหกรณ์ ซึ่งข้าราชการหลายต่อหลายคนตั้งวงสนทนา แสดงความคิดว่าทางสหกรณ์น่าจะมีโครงการดีๆ ขึ้นมาสักอย่าง เช่น สร้างหมู่บ้านสวัสดิการข้าราชการผ่อนในราคาไม่แพงนัก (ผ่อนยาวนาน) โดยเฉพาะในพื้นที่เขตรอบนอกราคาที่ดินไม่สูงเกินไป เพราะข้าราชการ กทม. หลายชีวิตไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง nn