ฝุ่น PM2.5 เหนือ-อีสาน ยังหนัก พบ 17 จังหวัดเกินค่าระดับสีแดง นครพนม อ่วมหมอกควันทั่วเมือง ด้าน กทม.ฝุ่นพิษระดับสีส้ม ค่าเฉลี่ย
44.5 มคก./ลบ.ม.ขณะที่กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนอากาศร้อน

เมื่อวันที่ 26 มีนาคมสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมแบบรายชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบว่าพื้นที่ กทม.มีค่าฝุ่นในระดับปานกลาง ส่วนภาพรวมประเทศไทย พบ 17 จังหวัด มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับสีแดง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ด้านสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครพนม รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พบว่าค่าฝุ่น PM2.5 สูงถึง 154.8 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก N95 หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจติดขัด แสบตา ควร รีบพบแพทย์ โดยผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและผู้สูงอายุ ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ สำหรับค่ามาตรฐานโดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติกำหนดมาตรฐานฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 37.5 มคก./ลบ.ม.จึงปลอดภัยต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ใน จ.นครพนม มีสาเหตุหลักจากการเผาในที่โล่ง เช่น พื้นที่การเกษตร เช่น การเผาตอซังข้าว รวมถึงพื้นที่ทำไร่ พื้นที่ป่า และการเผาขยะในครัวเรือน โดยจากการเผาในพื้นที่การเกษตร นอกจากเกษตรกรยังยึดติดกับการเผาตอซังข้าว และยังพบว่าฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีการเผาเช่นกัน

ที่ จ.หนองคาย วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพอากาศยังคงไม่สดใส ท้องฟ้าขมุกขมัว โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบุว่าบริเวณสวนสาธารณะหนองถิ่น ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงถึง 140 มคก./ลบ.ม.เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ในรอบสัปดาห์นี้ ส่วนค่าคุณภาพอากาศ อยู่ที่ 266 มคก./ลบ.ม.มีผลกระทบต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นจากวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่น PM2.5 ส่วนหนึ่งมาจากการก่อสร้างถนนหลายสาย กระบวนการก่อสร้างที่มีการถมดิน ปรับพื้นที่ และรถยังคงวิ่งไปมา โดยประชาชนในละแวกที่มีการก่อสร้าง ต้องใช้วิธีรดน้ำบนถนน เพื่อบรรเทาปัญหา ลดปริมาณฝุ่น พร้อมกับขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขับช้าๆ เพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย

นพ.สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุข จ.หนองคาย กล่าวว่า ขณะนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มสูง และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 และหากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกัน อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ออกประกาศแจ้งเตือนพายุฤดูร้อน ช่วงวันที่ 29 มีนาคม-1 เมษายน 2568 รวม 11 จังหวัด ได้แก่ เลย , หนองบัวลำภู , อุดรธานี , หนองคาย , บึงกาฬ , นครพนม , สกลนคร , กาฬสินธุ์ , มหาสารคาม , ขอนแก่น และชัยภูมิ ขอให้ประชาชนระวังอันตราย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน ระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิต

วันเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ใน กทม.พบว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 44.5 มคก./ลบ.ม.ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีส้ม และฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับ 10 เขต ที่ฝุ่น PM2.5 สูงสุด ได้แก่ เขตบึงกุ่ม 64.2 มคก./ลบ.ม.เขตวังทองหลาง 56.9 มคก./ลบ.ม.เขตสาทร 56.9 มคก./ลบ.ม.เขตบางนา 54.8 มกค./ลบ.ม.เขตบางพลัด 51.9 มคก./ลบ.ม.เขตลาดกระบัง 51.3 มคก./ลบ.ม.เขตหนองจอก 50.7 มคก./ลบ.ม.เขตบางขุนเทียน 50.5 มคก./ลบ.ม.เขตพญาไท 49.2 มคก.ลบ.ม.และเขตคลองสามวา 49.1 มคก./ลบ.ม.

ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวและมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจาก สภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานรวมทั้งระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง