จับคนร้ายชิงทรัพย์ทองรูปพรรณ 12 เส้น น้ำหนัก 160 บาท มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ได้ของกลางกลับคืนมาครบทั้ง 12 เส้น
วันที่ 27 มีนาคม 2568 สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 เวลาประมาณ 18.12 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาว สวมหมวกผ้าสีเขียวปิดบังใบหน้า เข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างขายสินค้าปลีกชื่อดัง โดยทำท่าล้วงจับอาวุธปืนที่เอวข่มขู่พนักงานร้านทอง พร้อมยื่นถุงผ้าสีขาวให้พนักงานหยิบสร้อยคอทองคำใส่ถุงผ้าดังกล่าว โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำจำนวน 12 เส้น น้ำหนักรวม 160 บาท มูลค่ากว่า 7,760,000 บาท จากนั้นคนร้ายวิ่งออกมาหน้าห้างหลบหนีไป เหตุเกิดท้องที่ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้มาประชุมติดตามความคืบหน้าและให้ข้อแนะนำในการสืบสวนสอบสวน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 ผู้จับกุม นำโดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภูริธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนานพ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ. จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าว พร้อมตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากประชาชน ทำให้ทราบว่า ก่อนลงมือก่อเหตุ คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางริมถนนสายเอเชีย ห่างจากห้างที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. และเดินเท้ามายังห้างแล้วลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ทองรูปพรรณจากร้านทองภายในห้างดังกล่าว หลังเกิดเหตุคนร้ายได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปยังจุดที่จอดรถทิ้งไว้ แล้วขับรถหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่เขตสายไหม กรุงเทพฯ
ต่อมาในวันที่ 26 มี.ค.68 เวลาประมาณ 21.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ได้เข้าตรวจค้นภายในห้องพักที่คนร้ายมาพักอาศัยดังกล่าว โดยเป็นเหตุฉุกเฉิน ซึ่งหากไม่ค้นทันทีพยานหลักฐานจะสูญหายหรือถูกทำลาย ประกอบกับนายพด (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในห้องสมัครใจให้เข้าไปทำการตรวจค้นโดยเป็นผู้นำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอยู่ภายในห้อง ดังนี้ สร้อยคอทองคำ จำนวน 12 เส้น ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์ไป , อาวุธปืนแบบรีวอลโว่ ขนาด .38 มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก , เสื้อผ้า รองเท้า และหมวกที่ตรงกับของคนร้ายใช้สวมใส่ในวันที่มาก่อเหตุ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน พร้อมของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ
เนื่องจากเป็นเหตุที่จะออกหมายจับได้ แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับบุคคล นั้นได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายพด ผู้ต้องหาว่า “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธปืน โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ” พร้อมได้แจ้งสิทธิต่างๆ ตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ แล้วนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ดำเนินตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง ตำรวจภูธรภาค 1 ขอขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้ช่วยแจ้งข้อมูลเบาะแสในคดีนี้จนทำให้สามารถจับกุมคนร้ายพร้อมยึดของกลางกลับคืนให้กับผู้เสียหายได้ครบทั้งหมดโดยเร็ว และใคร่ขอประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือว่า หากพบเห็นบุคคลที่แต่งกายและมีพฤติการณ์ที่อาจจะเป็นคนร้าย อาทิเช่น ใส่หมวกปิดบังใบหน้าแบบมิดชิด สวมเสื้อคลุมคล้ายพกพาอาวุธมาด้วย เข้ามาภายในห้างที่มีร้านทองตั้งอยู่ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางสายด่วน 191 ในทันที เพื่อให้เข้ามาทำการตรวจสอบโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันเหตุชิงทรัพย์และเหตุร้ายอื่นๆ ที่เป็นการสร้างความ ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี