กทม. ชวนหญิงไทย 11-20 ปี ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรี ทุกวันพุธ ถึง 30 เม.ย.นี้ ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่งทั่วกรุง

นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้เชิญชวนหญิงไทยอายุ 11-20 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกโดยไม่เสี่ยค่าใช้จ่าย ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 นั้น สำนักอนามัย (สนอ.) ได้สำรวจข้อมูลนักเรียนหญิงไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ป.5) ขึ้นไป ในโรงเรียนทุกสังกัดทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่ต้นปีการศึกษา 2567 เพื่อให้ทราบจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) และแจ้งข้อมูลต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอต่อจำนวนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันศูนย์บริการสาธารณสุขได้ให้บริการฉีดวัคซีน HPV แก่นักเรียนหญิงชั้น ป.5 แบบ school-based เสร็จสิ้นแล้ว ต่อจากนี้จะให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายนอกเหนือจากนักเรียนชั้น ป.5 ได้แก่ กลุ่มหญิงไทยอายุ 11-20 ปี ทั้งในและนอกระบบการศึกษา ทั้งนี้ การให้บริการฉีดวัคซีน HPV แบ่งออกเป็น 2 กรณีดังนี้ ผู้ที่เคยได้รับวัคซีน HPV เข็มแรกมาแล้วเกิน 6 เดือน จะได้รับวัคซีนชนิด 2 หรือ 4 สายพันธุ์ เป็นเข็มที่ 2 และผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน HPV จะได้รับวัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ เพียง 1 เข็มเท่านั้น โดยสามารถ walk in พร้อมแสดงบัตรประชาชนเพื่อลงทะเบียนเข้ารับบริการได้ทุกวันพุธ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข ของ กทม. ทั้ง 69 แห่ง ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568

ด้านนางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสถานพยาบาลในสังกัด กทม. พร้อมให้บริการฉีดวัคซีน HPV และให้ความรู้คำแนะนำผู้ปกครองพาเด็กเล็กเข้ารับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นเข็มที่ 2 ในกลุ่มเป้าหมายอายุ 11-20 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การให้บริการครอบคลุมหญิงไทยที่ไม่เคยได้รับวัคซีน HPV มาก่อน รวมถึงผู้ที่เคยฉีดวัคซีนเข็มแรกมาแล้วแต่นานเกินกว่า 6 เดือน โดยผู้ปกครองสามารถนำบุตรหลานเข้ารับบริการฉีดวัควีนเพื่อสร้างเสริมสุขภาพได้ที่ BKK WELLNESS CLINIC ในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทั้ง 11 แห่ง พร้อมทั้งตรวจสุขภาพฟรีและบริการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนตามความเสี่ยง

ในส่วนของนักเรียนหญิงในโรงเรียนสังกัด กทม. นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวว่า ได้ประสานหน่วยบริการสาธารณสุขทั้งภายในและภายนอก กทม. เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการเฝ้าระวังและดูแลนักเรียน และกำชับให้นักเรียนรับวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ในส่วนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ในนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ที่ตกค้าง ได้ร่วมกับ ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่เขตบริการของโรงเรียนดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2566-2568 รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือส่งเสริมความรู้และสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีน HPV ตามกำหนด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและความลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคต