‘นายกฯ’ถกแต่งตั้ง‘นายพลแก้มลิง’ 53 ตำแหน่ง ‘บิ๊กอ้อ-บิ๊กโอ๋’นั่งที่ปรึกษาพิเศษตร.
27 มีนาคม 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2568 โดยมีวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบ วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา สำหรับวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ ที่ประชุมพิจารณารายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร. ในด้านต่างๆ อาทิ งานด้านกฎหมาย การบริหารทรัพยากรบุคคล รวมถึงผลการดำเนินการตามมติ ก.ตร. ในเรื่องสำคัญ เช่น การประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ ประจำปี 2567 และรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการขอรับสิทธิ การนับเวลาราชการเป็นทวีคูณและ พ.ส.ร. ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ไปปฏิบัติหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออก
ในวาระที่ 4 เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ ร่างระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่ม สำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุข พ.ศ. ... และการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร. และวาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
บรรยากาศก่อนประชุม นายกรัฐมนตรีได้ยิ้มทักทายสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว จากนั้นได้เข้าห้องประชุมศรียานนท์ ก่อนจะเปิดการประชุมโดยเน้นย้ำให้ กรรมการ ก.ตร. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ช่วยกันพิจารณาตามวาระการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมปกติในรอบเดือน มีวาระที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลโดยเรื่องที่พิจารณามี 3 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 ร่างระเบียบเกี่ยวกับเงินเพิ่มผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานด้านสาธารณสุขของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักการของระเบียบเดิม เป็นเพียงการปรับระเบียบให้รองรับตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับปัจจุบัน ยืนยันว่าสาระสำคัญไม่ได้เปลี่ยนไป
เรื่องที่ 2 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษและผู้ทรงคุณวุฒิ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 53 ราย
เรื่องที่ 3 เป็นการคัดเลือกแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ 1 รายย้อนหลังไปในวาระประจำปี 2566 ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ
พล.ต.ท.อนุชา กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากนั้นเป็นการหารือเรื่องการพัฒนางานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานกำลังพลจะมีการรับไปดำเนินการ
สำหรับการแต่งตั้งวาระเดือนเมษายนนี้เป็นการแต่งตั้งในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.” ยศ พล.ต.อ. เทียบรอง ผบ.ตร. , จเรตำรวจแห่งชาติ ได้โควตา 10 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ช่วย ผบ.ตร. , รองจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 1 ปี
จากผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยพิจารณาแต่งตั้งเรียงลำดับอาวุโส มี 2 ผู้ช่วย ผบ.ตร.คุณสมบัติครบเท่านั้น คือ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี
“ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.” ยศ พล.ต.ท. เทียบเท่าผู้บัญชาการ พิจารณาจากรองผู้บัญชาการ, รองจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 2 ปี กลุ่มนี้สามารถแต่งตั้งได้ 20 คน การแต่งตั้งครั้งนี้มี 11 นาย อาทิ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม, พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ, พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล, พล.ต.ต.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ, พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์
ตำแหน่ง “ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร.” ยศ พล.ต.ต. เทียบเท่าผู้บังคับการ พิจารณาจากรองผู้บังคับการ ไม่น้อยกว่า 4 ปี กลุ่มนี้สามารถแต่งตั้งได้ 30 คน ปรากฏว่าปีนี้จะแต่งตั้งเต็มโดย 17 ราย ตัดยอดมาให้ระดับผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. ยศ “พล.ต.ต.” ที่มีอยู่ 30 ตำแหน่ง ได้เพิ่มอีกรวมเป็น 47 ตำแหน่ง แต่ปรากฏว่าปีนี้มีผู้มีคุณสมบัติครบแค่ 41 ตำแหน่งเท่านั้นที่เกษียณ อาทิ พ.ต.อ.หญิงลัดขณา แพทยานันท์, พ.ต.อ.วงศ์วริศ สีคำ, พ.ต.อ.ปิยมิตร วิภาตะศิลปิน, พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุ, พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์, พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง, พ.ต.อ.นรเศรษฐ์ อินทรจันทร์, พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี