เร่งกู้ซากตึกสตง.ถล่ม
พบแล้ว8ศพสูญหายเกือบร้อย
ระดมสรรพกำลังลุยช่วยเต็มที่
ญาติเหยื่อแผ่นดินไหวร่ำไห้
พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปลอดภัย
ทุกฝ่ายระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกลหนัก เข้ากู้ซากอาคาร สตง.ถล่มกลางกรุง หลังเกิดแผ่นดินไหวพบแล้ว 8 ศพ สูญหายอีกเกือบร้อย ญาติปักหลักเฝ้ารอจุดธูปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ปลอดภัย เผยยังมีโอกาสได้ลุ้นหลังพบสัญญาณชีพอีก 15 ราย ปภ.สรุปได้รับผลกระทบ 14 จังหวัด อีก 57 จังหวัด รับแรงสั่นสะเทือน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. ในฐานะเลขานุการ บกปภ.ช. กล่าวสรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวและความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ว่า ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สามารถรับรู้แรงสั่นไหวได้ในพื้นที่ รวม 57 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลกเพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม
นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธรเลย สกลนคร อุดรธานี ชัยนาท นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการสมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สระบุรี อ่างทอง จันทบรี ฉะชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้วกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง สุราษฎร์ธานี รวมถึงกรุงเทพมหานคร โดยมีแผ่นดินไหวตาม (Aftershock) ขนาด 2.8 – 7.1 รวม 56 ครั้ง
เสียหาย14จว./เสียชีวิต9บาดเจ็บ9
อธิบดี ปภ. กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้รับรายงานความเสียหาย 13 จังหวัด และกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 ราย ผู้บาดเจ็บ จำนวน 9 ราย และผู้สูญหายจำนวน 101 ราย ปัจจุบันมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดแพร่ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ที่มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติเต็มพื้นที่ ทั้งนี้ความเสียหายในพื้นที่ 13 จังหวัด และกทม. มีดังนี้ 1.จ.เชียงใหม่อาคารจอดรถโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อาคารคอนโดศุภาลัยมอนเต้ 1 และ 2 ผนังเกิดความเสียหายอาคารดวงตะวันคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น โครงสร้างได้รับความเสียหาย วัดสันทรายต้นกอกมีเจดีย์ร้าว และอ.ดอยเต่าส่วน ต่อเติมบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 1 หลัง อ.พร้าว ต.ทุ่งหลวง ม.6 บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 2 หลัง ต.สันทราย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลัง อ.หางดง ต.หางดง หลังคาของอาคารหอพักรัชดาได้รับความเสียหายจากแทงค์น้ำตกจากเสา กำแพงบ้านประชาชนล้มประมาณ 10 ม. อาคารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 มีรอยร้าวตามอาคารเรียน วัดน้ำล้อม ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง วิหารมีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
2.จ.เชียงราย ผนังอาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เกิดรอยร้าวเล็กน้อย หลังคาของอาคารวัฒนธรรม วัดท่าข้าม ต.ศรีดอนชัย ได้รับความเสียหายบางส่วน อ.ป่าแดด คานคอนกรีตบริเวณสถานีรถไฟป่าแดด (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) หล่นทับรถยนต์ จำนวน 6 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ลำพูนบ้านเรือนเสียหายเพียบ
3.จ.ลำพูน อ.ป่าซาง ต.ปาซาง ซุ้มประตูวัดพาณิชสิทธิการามโค่นล้มเสียหาย ต.แม่แรง หอระฆังวัดดอนตอง เสียหาย อ.ลี้ ต.ป่าไผ่ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ต.ลี้ บ้านเรือนเสียหาย 23 หลัง ผนังอาคารโรงพยาบาลลี้มีรอยร้าวอ.บ้านธิ ต.ห้วยหยาบ โรงเก็บไม้ถล่มเสียหาย อ.เมืองฯ ต.บ้านแป้น ซุ้มประตูบ้านผู้ใหญ่บ้านล้มเสียหาย ต.หนองช้างคืน โรงเก็บของพังเสียหาย ต.ริมปิง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง ต.ป่าสัก ระบบท่อประปาหมู่บ้านเสียหายต.เหมือนจี้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง ต.มะเขือแจ้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง ต.หมืองง่า หลังคาโบสถ์วัดบ้านหลุกเสียหาย ต.ต้นธง ผนังอาคาร รพ.ลำพูน เสียหาย อ.บ้านโฮ่ง ต.บ้านโฮ่งหอนาฬิกาบ้านห้วยกานเสียหาย ผนังอาคาร รพ.บ้านโฮ่ง เสียหาย ต.หนองปลาสวาย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง เมรุวัดสันเจดีย์ริมปิง เสียหาย อ.เวียงหนองล่อง ต.หนองล่อง อาคารที่ว่าการอำเภอเวียงหนองล่อง มีรอยร้าวอ.แม่ทา ต.ทาสบเส้า ผนังอาคาร รพ.แม่ทา มีรอยร้าว อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่ทามีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ศาลาวัดลำปางหลวงมีรอยร้าว
4.จ.ลำปาง อ.สบปราบ ต.สมัย บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง สำนักสงฆ์ 1 แห่ง อ.เกาะคา ห้องน้ำกองร้อย อส.อำเภอเกาะคา เสียหาย ศาลาวัดลำปางหลวงเกิดรอยร้าว อ.เมืองฯ อาคาร รพ.ลำปาง มีรอยร้าว เสาอาคาร มทร.ล้านนาลำปางเสียหาย อ.แม่ทะ ต.บ้านกิ่ว บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง ต.นาครัว บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลังโรงรถ 1 แห่ง อาคาร อบต.บ้านกิ่ว มีรอยร้าว 2 หลัง อ.แม่พริก ต.แม่พริก บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 10 หลัง อาคารรพ.แม่พริก มีรอยร้าว อ.งาว ต.บ้านแหง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง อาคารเก็บพืชผลการเกษตร 2 หลังอ.ห้างฉัตร ต.ปงยางคก บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ต.แม่สัน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง ต.ห้างฉัตรวัดพระธาตุปางม่วง เสียหาย อ.วังเหนือ ต.วังซ้าย กุฏิวัดบ้านสบม่า เสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสียชีวิต
พบรอยร้าวศาลากลางจ.แม่ฮ่องสอน
5.จ.แม่ฮ่องสอน อาคารศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังใหม่มีร้อยร้าว อ.ปาย ศาลาริมทางแหล่งท่องเที่ยวกองแลนอาคารโรงพยาบาลปาย โรงเก็บกระเทียม ได้รับความเสียหาย อ.ขุนยวม อาคารโรงพยาบาลขุนยวม มีรอยร้าว อ.สบเมย ทางเดินเชื่อมอาคารโรงพยาบาลสบเมย ได้รับความเสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
6.จ.แพร่ อ.เมืองฯ โรงจอดรถภายในบ้านเลขที่ 234 ต.ป่าแมต ได้รับความเสียหายบางส่วน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 7.จ.เพชรบูรณ์ อ.เมืองฯ อาคารโรงเรือนการเกษตร ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 8.จ.สุโขทัย อ.ศรีสำโรง อาคารโรงยาสูบ เสียหาย 1 หลัง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
กทม.ดับ8สูญหารร่วมร้อย
9.กรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร อาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักรลักษณะเป็นอาคารระหว่างการก่อสร้าง สูง 30 ชั้น เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ผู้สูญหาย 101 ราย เขตบางซื่อ เครนก่อสร้างถล่ม บริเวณแยกบางโพ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
10.จ.พระนครศรีอยุธยา อ.ลาดบัวหลวง แท็งก์น้ำทรุดตัวในพื้นที่ ม.6,7 ต.สิงหนาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
11.จ.นนทบุรี อ.เมืองฯ รพ.พระนั่งเกล้า ฝ้าเพดานบนชั้น 17 ร่วง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ตัวอาคารมีรอยแตกร้าวและร่วงลงพื้น 3 จุด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
12.จ.สมุทรปราการ อ.พระประแดง วัดโปรดเกศเชษฐาราม ม.11 ต.ทรงคนอง ระเบียงบริเวณด้านหน้าโบสถ์เกิดการแตกร้าวเล็กน้อย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
13.จ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ อาคาร รพ.สมุทรสาคร มีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
14.จ.ชัยนาท อ.เมืองฯ เมรุวัดลัดเสนาบดี เสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
เร่งระดมกำลังช่วยเหลือประชาชน
อธิบดี ปภ. กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ในทุกพื้นที่ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร ตำรวจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณะกุศล ภาคเอกชน และจิตอาสา และพลเรือน ได้เข้าให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับการปฏิบัติของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เมื่อคืนนั้น ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ระดมทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) จำนวน 48 นาย พร้อมอุปกรณ์ค้นหาสัญญาณชีพและอุปกรณ์พิเศษเข้าสนับสนุนการปฏิบัติให้กับกรุงเทพมหานครในบริเวณจุดที่มีอาคารถล่มและมีผู้ติดค้างและสูญหาย และได้ร่วมกับ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือส่ง SMS แจ้งประชาชน จำนวน 4 ครั้ง โดยเมื่อเวลา 14.42 น. แจ้งประชาชนสามารถเข้าอาคารได้กรณีจำเป็น เวลา 16.07 น. แจ้งข้อควรปฏิบัติกรณีเกิดแผ่นดินไหว เวลา 16.09 น. แจ้งข้อควรปฏิบัติหลังเกิดแผ่นดินไหว และเวลา 16.45 น. แจ้งประชาชนสามารถเข้าอาคารได้หากได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารแล้ว และเพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการทำงาน
กทม.ลุย2ภารกิจเร่งด่วน
วันเดียวกัน ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์และภารกิจเร่งด่วนว่า มี 2 เรื่อง คือ หนึ่งเรื่องการกู้ภัยอาคารถล่มที่เขตจตุจักร สั่งการเดินหน้าเต็มที่ ไม่มีการยกเลิกใดๆ ทั้งสิ้น และมีการปรับยุทธวิธีให้สอดคล้องกับสถานการณ์คือ มีการนำเครื่องมือหนักเข้าไปเพื่อนำชั้นที่ถล่มลงออกมาเข้าไปหาคนที่รอดชีวิตอยู่ด้านใน ทั้งนี้ เมื่อคืนมีการใช้เครื่องมือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในการสแกนพบสัญญาณชีพอยู่ 15 ราย ย้ำว่าเดินหน้าเต็มที่ ห้ามหยุด ห้ามช้า เพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด
ในส่วนภารกิจที่ 2 คือ อาคารส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่ประชาชนอาจจะยังกังวล หน้าที่เราคือต้องสร้างความมั่นใจว่าอาคารมีความปลอดภัย ซึ่งวันนี้จะมีการส่งวิศวกรอาสาที่มีอยู่ประมาณ 130 คน เข้าไปตรวจอาคารเหล่านี้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ถ้าเป็นของอาคารภาครัฐ อาคารหน่วยงานราชการ ทางอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งเจ้าหน้าที่ไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ส่วนอาคารเอกชน กทม. กับวิศวกรอาสาจะเข้าไปดูแล โดยเมื่อคืนใน Traffy fondue มีประชาชนแจ้งเรื่องรอยแตกร้าว ประมาณ 2,000 ราย มีหน่วยวิศวกรนั่งตรวจสอบ ซึ่งมีอาคารประมาณ 700 แห่ง ที่ต้องลงไปดูละเอียดในวันนี้ เขตที่แจ้งเข้ามามากที่สุดจะเป็นแถวในชั้นในเนื่องจากมีตึกสูง ส่วนเขตรอบนอกแทบไม่มีเลย ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์น่าจะค่อย ๆ คลี่คลายลง
ชี้สถานการณ์ทั่วไปเริ่มคลี่คลายแล้ว
“ต้องบอกว่าสถานการณ์ทั่วไปเริ่มคลี่คลายแล้ว เป็นหน้าที่ของเราในการพยายามนำความเชื่อมั่นกลับมา ต้องยืนยันว่าเมื่อวานแผ่นดินไหวรุนแรงมาก ในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ว่าอาคารที่พังทลายมีอยู่แค่ 1 อาคาร และเป็นอาคารที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ อาคารที่เหลือ 100% ไม่มีการพังทลาย ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก สถานการณ์จะค่อย ๆ คลี่คลาย อาฟเตอร์ช็อกมีจำนวนน้อยและเบาลง สภาพการจราจรเช้านี้ก็ยังดีอยู่ คนเริ่มปรับการเรื่องเดินทางและเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ ด้วย ขณะนี้จุดกังวลอย่างเดียวคือเร่งเปิดทางด่วน โดยพยายามประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้เสร็จสิ้นทันวันจันทร์ที่จะถึงแน่นอน” นายชัชชาติ กล่าว
กรมโยธาฯลุยตรวจความมั่นคงอาคาร
ขณะที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ออกแถลงการณ์ กรณีการตรวจสอบความมั่นคงของอาคารหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว สรุปว่า ระบุว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งเพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ณ กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6 โดยประสานงานกับสภาวิศวกร สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร และวิศวกรอาสาภาคเอกชน กรุงเทพมหานคร ในการเตรียมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเร่งดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร โดยจะเน้น อาคารสาธารณะ อาคารชุมนุมคน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นลำดับแรกและหากประเมินแล้วอาคารมีความเสี่ยงไม่ปลอดภัยในการใช้อาคาร จะเสนอให้มีการระงับการใช้อาคาร และให้ดำเนินการมีการปรับปรุงให้อาคารมีความมั่นคงแข็งแรงก่อนเปิดใช้อาคารต่อไป
พร้อมช่วยตรวจสอบอาคารบ้านเรือน
ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้เผยแพร่คู่มือสำรวจความเสียหายขั้นต้นของโครงสร้างอาคารหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวของกรมโยธาธิการและผังเมือง หลังแผ่นดินไหว เพื่อให้เจ้าของอาคารผู้ตรวจสอบอาคาร และประชาชนทั่วไปรับทราบผ่านทุกช่องทาง พร้อมทั้งเปิดสายด่วนสำหรับขอรับคำปรึกษาและแจ้งเหตุที่หมายเลข 02-299-4191 และ 02-299-4312 ตลอด 24 ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนและเจ้าของอาคารที่พบความเสียหาย ดำเนินการให้มีการประเมินตรวจสอบอาคาร เพื่อความปลอดภัย
ทุกหน่วยระดมกำลังช่วยผู้สูญหาย
ผู้สื่อข่าว รายงานความคืบหน้า การค้นหาและช่วยชีวิต ผู้ที่ยังสูญหายจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มว่า ทุกหน่วยงานที่ที่เกี่ยวข้อง ในการบรรเทาสาธารณภัย ได้ระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ อย่างเต็มกำลัง ซึ่งมีรถเครื่องมือหนัก ได้เร่งเคลียร์พื้นที่ มีทั้งรถแบคโฮ และรถเครน ขนาด 200 ตัน จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึง ทางผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกรมช่าง ให้นำเครื่องตัดถ่าง 5 ชุด สนับสนุนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเป้าหมายในแต่ละจุด และให้นำ รถบดหินตัดเหล็กจำนวน 2 คัน เข้าสนับสนุนในพื้นที่ ซึ่งรถบดหินตัดเหล็ก มีความสามารถตัดเหล็กและคีบเศษวัสดุต่างๆ ที่มีน้ำหนักมาก เข้ามาสนับสนุนเปิดพื้นที่ทางเข้า ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทีมสุนัขเข้าค้นหาและช่วยเหลือ
การทำงานดังกล่าว เพื่อประเมินสถานการณ์และความปลอดภัย ให้กับทีม USAR THAILAND ได้เข้าไปค้นหาและช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุในจุดที่ตรวจพบสัญญาณชีพ ขณะที่ในจุดโดยรอบ ทีมสุนัข K-9 USAR ร่วมกับ สุนัขทหาร ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก และทีมอาสา K-9 จากต่างชาติ ที่ได้ปฏิบัติงานในประเทศไทยมาแล้ว 19 ปี มีความสามารถ ทั้งการค้นหาผู้รอดชีวิตและค้นหาผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ได้วางแผนการปฏิบัติการค้นหาในช่วงบ่าย โดยมี ดร.อลงกต ชูแก้ว รองผู้อำนวยการ K-9 USAR พร้อมด้วย พล.ต. สมพงษ์ สุขประดิษฐ เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก ได้หารือการปฏิบัติงานร่วมกัน ร่วมถึงการเตรียมความพร้อม ของสุนัขค้นหาทั้ง 19 ตัวจะเข้าค้นหาในทันที เมื่อได้รับการประเมินจากหน่วยป้องกันและบรรเทาสาระภัยแล้วว่าสามารถนำสุนัขเข้าไปค้นหาได้
ญาติจุดธูปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แห่งใหม่ สูง 34 ชั้นถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ เกิดถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เมื่อบ่วงบ่ายโมง วันที่ 28 มี.ค.ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่มีประกาศยุติค้นหาชั่วคราว เมื่อเวลา 05.00-08.00 น. เนื่องจากแผ่นปูนเริ่มทรุดตัว ต่อมาช่วงเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่มีการนำรถแบคโฮเข้าเคลียร์เศษซากบางส่วน เพื่อเริ่มค้นหาผู้สูญหาย โดยมีบรรดาญาติของผู้สูญหาย และสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้มีการพบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพสูญหายอีกเกือบร้อยราย
ขณะเดียวกันมีญาติบางรายจุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้พบเจอผู้สูญหายบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมกับปักหลักให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน
สตง.โพสต์แสดงความเสียใจ
เพจ “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน” โพสต์ข้อความระบุว่า สตง. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นและจะได้ชี้แจงให้ทุกท่านทราบโดยเร็วต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี