น่าน ส่วนราชการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุตึกถล่ม ที่งานศพของนายนอย ธิชะ อายุ 53 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม ซึ่งได้นำศพกลับไปประกอบพิธีที่บ้านเกิด ที่บ้านป่าแลว อ.สันติสุข จ.น่าน
วันที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 16.30 น. นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ครอบครัวของ นายนอย ธิชะ แรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการตึกสำนักงาน สตง. ที่กำลังก่อสร้างถล่ม เป็นจำนวนกว่า 1,000,000 บาท โดยเป็นเงินจากกองทุนประกันสังคม และจากกาชาดจังหวัดน่าน พร้อมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิต ทั้งนี้ จังหวัดน่านยังมี แรงงานที่สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 3 ราย เป็นแรงงานจากอำเภอปัว ตำบลป่ากลาง 1 ตำบลแงง 1 ราย ตำบลอวน 1 ราย เบื้องต้นทางญาติของทั้ง 3 รายรับทราบ และใจจดใจจ่อรอคอยปาฏิหาริย์ อย่างมีความหวัง บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ เดินทางเจ้าให้กำลังใจครอบครัวพร้อมมอบเงินเยียวยามูลค่ารวมกว่า 9 แสนบาท
นางณัฐนันท์ อายุ 49 ปี ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า คบหากันมา 8 ปี สามีเริ่มทำงานกับบริษัทแห่งนี้ ตั้งแต่ปี 2527 ส่วนตึก สตง.ที่พังถล่ม เพิ่งจะเข้าไปรับงานได้ประมาณ 1 ปี โดยสามีทำหน้าที่ฝ่ายเชื่อมเหล็ก ก่อนเกิดเหตุ เธอได้โทรคุยกับสามีครั้งสุดท้าย เวลา 11.45 น. นัดหมายกันว่าหลังเลิกงานเธอจะพาสามีไปเลี้ยงหมูกระทะ เพราะเป็นวันที่เงินเดือนเธอออก ซึ่งตอนนั้นสามีกำลังนั่งทำงานอยู่บนตึกชั้น 33 และหลังจากวางสายไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตอนนั้นเธอเริ่มใจคอไม่ดีเพราะรู้ว่าสามีอยู่บนตึกสูง ช่วงเวลา 13.37 น. จึงพยายามโทรหาสามี แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย
ต่อมาทราบข่าวว่าตึกที่สามีทำงาน พังถล่มลงมา จึงตัดสินใจขอหัวหน้างาน เพื่อออกมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็พบว่าสภาพตึกถูกพังถล่มลงมาจนเหลือแต่ซาก ตอนนั้นภาวนาขอให้สามีมีชีวิตรอด เธอก็ได้แต่พยายามตะโกนข้ามรั้วสังกะสี หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ กระทั่งกลางดึกของวันที่ 29 มีนาคม เจ้าหน้าที่พบร่างสามี
เธอเล่าทั้งน้ำตาว่า เธอกับสามีรักกันมาก ทุกวันเธอจะต้องทำกับข้าวให้สามีไปทานที่ทำงาน และก่อนเลิกงานก็จะโทรถามสามีทุกวัน ว่ามื้อเย็นวันนั้นจะทานเมนูอะไร
เธอกับสามีเพิ่งซื้อบ้านอยู่ด้วยกันที่บางใหญ่ จ.นนทบุรี เริ่มผ่อนมาได้ประมาณ 3 ปี และยังมีรถเก๋งอีก 1 คัน เพิ่งเริ่มผ่อนได้ 2 ปี และมอเตอร์ไซค์อีก 1 คัน เพิ่งจะเริ่มผ่อนแค่ 3 เดือน ตั้งใจว่าหากทำงานจนผ่อนบ้านกับรถหมดสิ้น ก็จะพากันย้ายมาสร้างบ้านด้วยกันที่ จ.น่าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสามี แต่หลังจากนี้ เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร ในเมื่อสามีไม่อยู่แล้ว ไหนจะต้องรับผิดชอบภาระ ทั้งบ้าน ที่รถ ที่เพิ่งเริ่มสร้างมาด้วยกัน ส่วนเรื่องตึกที่พังถล่ทลงมานั้น แม้หลายคนทวงถามเรื่องความปลอดภัย แต่เธอในฐานะภรรยาผู้สูญเสีย ยังไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาสามีไม่เคยพูดถึงเรื่องที่ทำงานให้ฟัง เนื่องจากตอนเริ่มคบกัน ได้ตกลงกันว่าจะไม่เอาเรื่องที่ทำงานมาคุยกันในบ้าน
เมื่อถามถึงลางสังหรณ์ เธอบอกว่าวันเกิดเหตุก่อนนอกจากบ้าน สามีไม่ได้สวมชุดทำงาน แต่กลับแต่งตัวไปรเวท แต่เธอก็ไม่ได้ทักท้วง
นางกอน อายุ 62 ปี เป็นพี่สาวของผู้ตาย บอกว่า เมื่อคืนทันที่ที่ร่างของน้องชายมาถึง เธอถึงขั้นเป็นลมล้มฟุบลงกับพื้นเพราะทำใจไม่ได้น้องชายทำงานก่อสร้างมาหลายปี โดยทางบ้านไม่มีใครรู้ว่าตึกที่พังถล่มลงมานั้น จะมีน้องชายทำง่นอยู่ด้วย กระทั่งลูกสาวโทรมาแจ้งข่าว ว่าน้องชายเป็นหนึ่งในผู้สูญหายตึกถล่ม วินาทีนั้นเธอและบรรดาพี่น้องทุกคนต่างพากันร้องให้ จึงได้พากันไปไหว้พระและบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของให้มีปาฏิหาริย์ แต่ในที่สุด คืนวันที่ 29 มีนาคม เจ้าหน้าที่ก็พบร่างของน้องชาย
เธอบอกว่า วันที่ 26 มีนาคม น้องชายได้วิดีโอคอลมาอวยพรวันเกิดหลานชายอายุครบ 6 ขวบ เธอจึงถามว่า สงกรานต์จะกลับบ้านไหม น้องชายตอบว่า ยังไม่แน่ใจ ถ้าเงินออกก็ได้กลับ แต่ก็ไม่คิดว่าน้องชาย จะกลับบ้านมาในสภาพไร้ลมหายใจแบบนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี