‘มงคลกิตติ์’ พร้อมคณะ เข้าร่วมการทำงานของอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่ใต้ซากอาคาร ภายในโถงตึกโซนบี-แจกไอติม 3 ถังต่อ พร้อมกระทุ้งรัฐบาล เร่งสร้างความมั่นใจประชาชน 3 เรื่อง 'การเตือนภัย - การเยียวยา - การแก้ไขกฎหมายป้องกันการทุจริตในการก่อสร้างอาคารสูง' 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.ภคอร จันทรคณา คณะทำงานที่ปรึกษาพรรค นายสรกฤช จันทรคณา น.ส.กฤษยากร สรชัย  นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์   และคณะ ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคารถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวย่านจตุจักร เพื่อร่วมทีมกับอาสาสมัครเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตภายใต้ซากอาคารดังกล่าว ในบริเวณโถงตึกโซนบี  โดยนายมงคลกิตติ์ และคณฯ ได้ใส่ชุดเซฟตี้เพื่อป้องกันเศษวัสดุที่อาจจะตกลงมา รวมทั้ง ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอย่างเคร่งครัด พร้อมแจกไอติมเป็นวันที่ 2 จำนวน 3 ถัง 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จากการร่วมสังเกตการณ์ ในการค้นผู้รอดชีวิตสำหรับเหตุการณ์ตึกถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ถือว่ามาตรฐานในการดูแลจัดการภัยพิบัติของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของไทย ตนกล้าพูดได้ว่า มีมาตรฐานสูงมาก เพราะเนื่องจาก การทำหน้าที่ของอาสาสมัครหลายๆท่าน มีความชำนาญในการช่วยเหลือ อันเนื่องมาจาก ได้ผ่านประสบการณ์งานสาธารณภัยในรูปแบบต่างๆ รวมทั้ง ความกล้าหาญในการช่วยเหลือ โดยไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้ความหวังและปาฏิหาริย์สำหรับผู้รอคอยมีมากขึ้น จนอาจจะทำให้มีผู้รอดชีวิตเพิ่มมากขึ้น 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อาการความหวาดวิตกของคนไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาร์ยังคงมีอยู่ เพราะในวันนี้ยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอาคารต่างๆ ที่มีการสั่งอพยพคนออกจากตึกออกมา เนื่องจากรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น และมีหลายหน่วยงานก็ได้มีการสั่งให้มีการเวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) จนกว่าจะได้รับการยืนยันว่า อาคารที่ทำงานมีความมั่นคงปลอดภัย ทำให้เวลานี้ ประชาชนยังอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ตนจึงขอย้ำให้รัฐบาล สร้างความมั่นใจกับประชาชนโดยด่วนว่า หากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวนับจากนี้ จะมีการส่งข้อมูลเตือนภัยอย่างไรให้มีความรวดเร็วทันท่วงที ต่อมา การบรรเทาและเยียวยาความเสียหาย ทั้งผู้ที่เสียชีวิตโดยตรง ผู้ได้รับผลกระทบ และผู้ที่เสียขวัญจากสถานการณ์ตรงนี้ ขอให้รัฐบาล เร่งหามาตรการเฉพาะหน้าเพื่อเยียวยาโดยด่วน และขอให้ปรับปรุงกฎหมายการอนุญาตการก่อสร้างอาคารสูงนับจากนี้ เพราะเชื่อว่า ยังมีช่องโหว่จำนวนมากที่ทำให้เกิดการทุจริต จนต้องลดสเปคการก่อสร้างจากแบบที่เคยสร้างไว้ ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าใจซ้ำสองขึ้นอีก ดังนั้น ตนจึงอยากให้รัฐบาล เร่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวโดยด่วน มากกว่าที่เร่งไปผลักดันนโยบายอื่น ที่เร่งด่วนน้อยกว่าตามความรู้สึกของประชาชนด้วย