น้ำตาท่วมวัด!!!เผาแล้ว ตั๋งหนุ่มอุดร ช่างประปาตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่ม แม่ร้องไห้แทบขาดใจส่งวิญญาณลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย เกิดชาติหน้าขอให้เป็นแม่ลูกกันให้ชีวิตยืนยาวกว่านี้ ประกันสังคมจ่ายทันทีเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตมอบเงินช่วยเหลือล้านกว่าบาท ช็อคนายอำเภอมาเป็นประธานในฌาปนกิจเกิดวูบผู้ว่าฯ ให้เกียรติมาเป็นประธานเกิดวูบกะทันหัน เจ้าหน้าที่ฯ ต้องรีบนำส่งรพ.ช่วยเหลือเร่งด่วน

วันที่ 2 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เมรุวัดไทรทอง บ้านนาเหล่า หมู่ 5 ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ซึ่งสถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพของนายกิตติพร หรือตั๋ง อายุ 32 ปี หนุ่มแรงงานช่างประปา เหยื่อตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม โดยบรรยากาศพิธีมีพ่อแม่ญาติ และชาวบ้านเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก โดยพิธีฌาปนกิจมีนายชัชวาลย์ ทองชน นายอำเภอโนนสะอาด จ.อุดรธานี พร้อมหน่วยงานภาคราชการ เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

โดยวันนี้ทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานียังได้มอบเงินจำนวน 1,730,628.81 บาทให้กับนางไกรสร แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งเงินจำนวนนี้ทายาทหรือพ่อแม่จะได้รับสิทธิ์ประโยชน์ แบ่งเป็นค่าทำศพ 50,000 และ เงินทดแทนกรณีตาย 14,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 10 ปี รวมเป็นเงิน 1,680,000 เงินบำเหน็จชราภาพ 628.81 บาท รวมทั้งหมด 1,730,628.81 บาท 

จากนั้นผู้มาร่วมพิธีได้วางดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการไว้อาลัย ทั้งนี้ก่อนนำร่างไปประกอบพิธีฯ นายอรงกรณ์ หรือเต้ย น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวต่อหน้ารูปพี่ชายว่า อยากให้พี่ชายคนนี้ไปดี ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวน้องคนนี้จะดูแลแม่เอง ซึ่งก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพนั้น ชาวบ้านและทหารจิตอาสาได้ช่วยกันยกโลงวนรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนทำพิธีเผา บรรยากาศช่วงนั้นเป็นไปด้วยความโศกเศร้า แม่และญาติของนายกิตติพร ต่างทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ โดยผู้เป็นแม่ได้ตะโกนบอกกับดวงวิญญาณลูกชายว่า “ตั๋งไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะไปอยู่บนสรวงสวรรค์ เกิดไปเป็นเทวดาบุตรเทวดา ไม่ต้องห่วงแม่แม่อยู่ได้ หากเป็นไปได้ก็กลับมาเกิดเป็นลูกแม่ใหม่ มาเกิดแล้วอย่าได้มีอายุสั้นแบบนี้กลับมาเกิดกับแม่ใหม่นะลูก”จากนั้นแม่ของนายกิตติพรได้เดินเอามือไปลูบรูปของลูกชายตั้งอยู่หน้าเมรุและสะอื้นร้องไห้

แต่มีเรื่องน่าตกใจเมื่อนายชัชวาลย์ ทองชน นายอำเภอโนนสะอาดที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพนายกิตติกร ก่อนถึงช่วงพิธีประธานถวายผ้ามหาบังสกุล จู่ๆ นายอำเภอฯเกิดวูบขึ้นมากะทันหัน เจ้าหน้าที่เห็นนายอำเภอนั่งเอนหลับตา โดยพยายามไปเรียกเพื่อให้เป็นประธานถวายผ้าไตร แต่นายอำเภอไม่ได้สติ คนที่มาร่วมงานต่างพากันตกใจ จึงรีบนำส่งรพ.โนนสะอาดให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ทราบว่าตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว

นายอำนาจ พ่อของตั๋ง บอกว่า เรื่องทำใจตอนนี้ตนก็ยังทำใจไม่ได้ วันที่ได้ยินข่าวว่าลูกเสียชีวิตไปใหม่แทบจะผูกคอตายตามลูกแต่ตอนนี้คิดใหม่จะอยู่ต่อไปสู้ต่อไป เห็นรูปถ่ายของลูกทีไรน้ำตาก็ไหลออกมาทุกที แม้ลูกชายคนนี้จะจากไปแต่ตนยังมีลูกชายคนเล็กที่จะคอยเลี้ยงดูอีก อนาคตของเราก็ยังมีลูกและหลานคอยเป็นกำลังใจให้ เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ทางราชการจะมอบให้นั้นตนก็ไม่ได้ติดขัดอะไร และไม่ได้รู้สึกกังวล แล้วแต่ทางราชการจะจัดการให้ ส้วนกระดูกลูกนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้กับตนและส่วนหนึ่งก็เอาไว้ที่วัดตามประเพณีความเชื่อ “หากดวงวิญญาณของลูกรับรู้เป็นไปได้ก็อยากจะบอกว่าพ่อขอตายแทน”

 นายสุนันท์ เพื่อนนายตั๋ง บอกว่า ก่อนจะเกิดเหตุพากันทำงานอยู่บริเวณ ชั้น 5 และรู้สึกถึงแรงสั่นของแผ่นดินไหว ผมก็วิ่งออกมา นายตั๋งวิ่งออกมาจากตึกแล้ว แต่มีเพื่อนตะโกนให้ช่วย นายตั๋งจึงกับเข้าไปอีก ด้วยความที่นายตั๋งห่วงเพื่อนมาก จึงกลับเข้าไปช่วยเพื่อนแต่สุดท้ายตึกก็ถล่มทับตาย

นายภานุวัฒน์ หัวหน้าชุดผู้รับเหมาก่อสร้าง หัวหน้านายตั๋ง (เสื้อดำ) บอกว่า ผมรับงานเหมามาจากซับอีกที น้องตั๋งเป็นคนทำงานเก่ง ทำงานดี เป็นช่างเจาะปูนเพื่อต่อท่อระบบท่อฉีดน้ำดับเพลิงของอาคาร ในวันเกิดเหตุไปทำงานด้วยกัน 16 คน หนีออกมาได้ 13 คน ออกไม่ได้ 3 คน ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่สูญเสียทีมงานไปไปผมทำงานมาหลายที่ ก็แปลกใจเหมือนกันตึกแห่งนี้ อย่างพื้นรู้สึกหนามาก ผมไม่รู้นะผมไม่ได้ทำโครงสร้าง แต่เสาเห็นไม่ใหญ่ แต่ก่อนไม่ได้เอะใจก็มาเอะใจตอนเกิดเหตุ คือจริงๆ ผมทำเพียงวางระบบน้ำดับเพลิงในอาคารเท่านั้น

ทั้งนี้ก่อนเผานายตั๋งในช่วงบ่าย ตลอดทั้งวันที่ ณ วัดไทรทอง บ.นาเหล่า ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของนายกิตติกร  หรือตั๋ง เหยื่อนตึกสตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหววันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนมีการฌาปนกิจในบ่ายวันนี้ (2เมษายน) พบว่าหลายคนยังอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจโดยเฉพาะผู้เป็นแม่และพ่อ ซึ่งก่อนพิธีฌาปนกิจญาติที่เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมาหลายคนได้มาร่วมพิธีเป็นครั้งสุดท้าย “ทันทีที่มาถึงญาติได้จุดธูปบอกกล่าวและพูดต่อหน้ารูปหน้าศพด้วยภาษาอีสานว่า ตั๋งเอ๊ยญาติพี่น้องเฮาหลายคนที่โคราชมาร่วมงานแล้วเด้อ วันนี้จะมาส่งดวงวิญาณบักหล่าขอให้ดวงวิญาณบังหล่าไปอยู่ที่สุขสำบายเด้อ”

อย่างไรก็ตามนอกจากผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จากข้อมูลขอทางราชการยังพบว่า มีแรงงานซึ่งมีภูมิลำเนาเป็นชาวอุดรธานี อีก 2 คน คือ นายอุทัย อายุ 32 ปี ชาว อ.บ้านดุง ตอนนี้ญาติได้แจ้งสูญหาย ตรวจสอบเบื้องไม่พบการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (เป็นผู้ประกันตน ม.40 ขาดส่งหลายปี) สปส.อุดรธานี ลงพื้นที่วันที่ 1 เมษายน 2568 ได้ข้อมูลทำงานให้ผู้รับเหมาชื่อบุ๋มได้แจ้งให้เข้าไปพบจนท.เขตพื้นที่ 7 ในวันนี้เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดการทำงาน และนายเอนกพงศ์ อายุ 23 ปี ชาวอำเภอกุดจับ ตรวจสอบไม่พบการเป็นผู้ประกันตน สอบถามญาติไม่ทราบข้อมูลนายจ้าง ทราบเพียงไปทำงานเป็นช่างไฟเท่านั้น