สถานการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 นอกจากจะสร้างความตกใจความโกลาหลแล้วยังก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคาร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างอีกด้วย
ซึ่งในสถานการณ์ที่เป็นภัยพิบัติหรือสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นในประเทศไทยมีกลุ่มกฎหมายที่บัญญัติไว้เพื่อใช้บังคับในสถานการณ์ดังกล่าวหลายฉบับ อาทิ พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการชดเชยความเสียหายฯพ.ศ.2554
กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2557
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562
ประกาศกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินและการกำหนดประเภทภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขนาดเล็กและเฉพาะหน้า
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติพ.ศ.2564 เป็นต้น
ซึ่งกลุ่มกฎหมายดังกล่าวหรือวัตถุประสงค์ในการ แก้ไข ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากมีภัยพิบัติ
ส่วนในเรื่องของการแจ้งเตือนนั้นเรามี ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
ส่วนในเรื่องการแจ้งเตือนล่วงหน้านั้นเป็นปัญหาที่ยังถกเถียงกันอยู่ว่าสามารถทำได้หรือไม่
การแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับแผ่นดินไหวยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและยากต่อการพยากรณ์ล่วงหน้าแบบแม่นยำ อย่างไรก็ตาม ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า (EarthquakeEarly Warning-EEW) สามารถช่วยลดความเสียหายและเพิ่มโอกาสในการป้องกันตัวได้ โดยระบบเหล่านี้ทำงานตามหลักการดังนี้
หลักการทำงานของระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหว
1.เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงสั่นสะเทือน
-ระบบจะใช้เครื่องวัดแผ่นดินไหว (Seismometers) เพื่อตรวจจับคลื่นไหวสะเทือนที่เกิดขึ้น
-เมื่อเกิดแผ่นดินไหว คลื่น P (Primary waves) ซึ่งเคลื่อนที่ได้เร็วแต่สร้างความเสียหายน้อย จะถูกตรวจพบก่อน
2.คำนวณและประเมินผล
-คอมพิวเตอร์จะวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นจริงหรือไม่
-จากนั้นจะประเมินขนาด (Magnitude) และตำแหน่งของศูนย์กลางแผ่นดินไหว
3.แจ้งเตือนล่วงหน้า
-ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบก่อนที่คลื่น S (Secondary waves) ซึ่งสร้างความเสียหายสูงจะมาถึง
-ระยะเวลาการแจ้งเตือนอาจอยู่ในช่วงไม่กี่วินาทีถึงหลักนาที ขึ้นอยู่กับระยะห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว
ข้อจำกัดของการแจ้งเตือนแผ่นดินไหว
-ไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้นาน ระบบสามารถเตือนได้เพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่แรงสั่นสะเทือนหลักจะมาถึง
-ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทาง ถ้าศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใกล้พื้นที่เป้าหมายเกินไป การแจ้งเตือนอาจมาถึงช้าเกินไป
-โอกาสแจ้งเตือนผิดพลาด อาจเกิดการแจ้งเตือนผิดพลาดหรือไม่มีการแจ้งเตือนในบางกรณี
ตัวอย่างระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวในปัจจุบัน
-ญี่ปุ่น ระบบ EEW ที่พัฒนาโดย JMA (JapanMeteorological Agency) และส่งสัญญาณเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือทีวี และวิทยุ
-เม็กซิโก ระบบ SASMEX แจ้งเตือนประชาชนก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
-สหรัฐอเมริกา ระบบ ShakeAlert ในแคลิฟอร์เนีย โอเรกอนและวอชิงตัน
แม้แผ่นดินไหวจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้วแต่ After Shock โดยเฉพาะกรณีอาคาร สตง. ถล่ม คงจะทำให้หลายคนและหลายหน่วยงานยังร้อนๆ หนาวๆ กันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี