รวบคารั้วชายแดน! ‘หนุ่มระนอง’ หนีตายจากแก๊งคอลปอยเปต-มุดลวดหนามเข้าไทย
วันที่ 4 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201) เมื่อเย็นวันที่3 เม.ย.68 พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา(ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา) ได้สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12(ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 จัดกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตะเวณและเฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักลอบเข้า ออกเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณทิศเหนือตลาดโรงเกลือ ท้ายบ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมเสี่ยงต่อการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายซีลชายแดนของรัฐบาล และ กองทัพบก
ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วม ร้อย ทพ.1201 ได้ตรวจพบชายต้องสงสัยสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงวอร์มสีดำ สะพายกระเป๋าคาดอกสีน้ำตาลลักลอบเดินลุยน้ำบริเวณลำธารกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แล้วลอบมุดรั้วลวดหีบเพลงที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1201 นำมากั้นตะเข็บแนวชายแดนถึง 2 ชั้น เข้ามาในประเทศไทย บริเวณระหว่างจุดตรวจ จต.อ.12- จต.อ.13 บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนท.จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้คารั้วลวดหนาม ตรวจสอบทราบว่าเป็นคนไทยชื่อนายคึกฤทธิ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.ระนอง ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตข้ามแดนแต่อย่างใด โดยอ้างว่าวิ่งหนีตายจากการถูกตามล่าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อกลับเข้าประเทศไทย จนท.จึงควบคุมตัวมาซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
นายคึกฤทธิ์ เผยว่า ตนเองเป็นชาว จ.ระนอง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค.68 ได้มีเพื่อนชื่อนายนนท์ฯชักชวนให้มาทำงานออนไลน์ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา อ้างว่าเป็นงานสบายและรายได้สูง ทางนายจ้างจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปอยเปตฯให้ทั้งหมด และให้นำสมุดบัญชีธนาคารของตนซึ่งมีอยู่ 2 บัญชีคือบัญชีธนาคารกสิกรไทยและกรุงไทย ติดตัวมาด้วย จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้มีรถยนต์เก๋งสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มารับตนที่บ้านพักใน จ.ระนอง แล้วขับมาพักที่ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นก็มีรถเก๋งสีดำอีกคันมารับ จาก จ.บุรีรัมย์ มาที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วมาพักค้างที่ห้องแถวแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนเป็นเวลา 2 วัน จากนั้นก็มีชาวกัมพูชาขับขี่รถ จยย.มารับไปส่งที่ชายแดนช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบว่าเป็นที่ไหนเมื่อตนเดินเท้าลักลอบข้ามชายแดนออกไปกัมพูชาแล้วได้มีชาวกัมพูชามารอรับไปส่งที่ ตึก8ชั้น ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา มีรั้วสังกะสีล้อมรอบมิดชิด จากนั้นก็มีชาวจีน 4 คน จะมาขอยึดโทรศัพท์และสมุดบัญชีของตนแต่ตนไม่ยอมจึงถูกนำไปกักขังไว้ในห้องพัก ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.68 จนถึงวันที่ 3 เม.ย.68 ตนก็ไม่กล้าคิดหลบหนีเพราะกลัวถูกจับได้และจะถูกทำร้ายร่างกาย อาจถึงตายได้ จนกระทั่งเย็นวันที่ 3 เม.ย.68 ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนได้นำตนออกจากห้องพักเพื่อจะนำไปสแกนใบหน้า ตนจึงฉวยจังหวะที่คนจีนเผลอวิ่งหลบหนีออกมาจากตึก8ชั้น แล้วสอบถามเส้นทางข้ามแดนจากชาวเขมร จนกระทั่งสามารถลักลอบข้ามชายแดนกลับมาถึงฝั่งไทยได้ ถึงแม้จะถูกทหารพรานจับได้แต่ก็ดีใจที่รอดชีวิตกลับมาได้
จากนั้น จนท.จึงได้ควบคุมตัวนายคึกฤทธิ์ฯส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายและสอบขยายผลว่ามีส่วนร่วมในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยหรือไม่ต่อไป ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี