"ผอ.สคทช." เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสำรวจ ตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในท้องที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี หลังได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนเขาแหลมมานานกว่า 40 ปี

จากกรณีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ(เขาแหลม)ขึ้นในปี 2522 แล้วเสร็จเมื่อปี 2527 ตัวเขื่อนตั้งอยู่บ้านเขาแหลม ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เขื่อนมีความสูงจากฐาน 90 เมตร ยาว 1,019 เมตร ผลกระทบจากการสร้างเขื่อนคือราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำถูกโยกย้ายไปอยู่ที่ใหม่ จำนวน 1,302 ครัวเรือน มีสิทธิ์ได้รับจัดสรรที่ดินทำกินใหม่ครัวเรือนละ 15 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ 5 แปลง ดังนี้ อ.สังขละบุรี 1.แปลงจัดสรรลำห้วยซองกาเรีย มี 3 หมู่บ้าน เนื้อที่ 4,000 ไร่ 2.แปลงจัดสรรห้วยมาลัย 5 หมู่บ้าน เนื้อที่ 11,600 ไร่ 3.แปลงจัดสรรบ้านจองอั่ว 2 หมู่บ้าน เนื้อที่ 5,000 ไร่แ ละ อ.ทองผาภูมิ แปลงจัดสรรห้วยเขย่ง 6 หมู่บ้าน เนื้อที่ 15,000 ไร่ และ 5 แปลงจัดสรรห้วยกุยมั่ง มี 2 หมู่บ้าน เนื้อที่ 6,800 ไร่ รวมเนื้อที่ 2 อำเภอ 42,400 ไร่ 

ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของนิคมสหกรณ์มาตั้งแต่ปี 2518 ต่อมาอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับประกาศให้พื้นที่ที่มีสภาพป่าที่สมบูรณ์โดยรอบอ่างเก็บน้าเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลมเดิม) เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ในลำดับที่ 67 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534 มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ เขตปกครอง 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ ประกาศดังกล่าวเกิดการทับซ้อนกับนิคมสหกรณ์ ที่ประชาชนอาศัยอยู่แปลงจัดสรรต่างๆได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด เพื่อนำที่ดินไปทำธุรกรรมทางด้านการเงินได้ ผู้นำในพื้นที่ได้ออกมาต่อสู้จนแก่ชราเสียชีวิตไปแล้วหลายรายแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ 

เวลาผ่านมา 41 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ เพิ่งจะเริ่มเห็นแสงสว่างในปลายอุโมงค์ เมื่อนายพนม โพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 5 พรรคเพื่อไทย สส.หนุ่มไฟแรงที่ได้เข้ามาเป็นผู้แทน หรือ สส.สมัยแรก และผู้รับผิดชอบพื้นที่ ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับเอกสารโฉนดที่ดิน ผ่านระบบรัฐสภามาอย่างต่อเนื่อง

ในที่สุดก็เริ่มมีความหวัง โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(ผอ.สคทช.)ได้มอบหมายให้นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รอง ผอ.สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาออกเอกสารสิทธิ (โฉนด) ที่ดินของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ที่ห้องประชุมเขาแหลม 1 ชั้น 2 อาคารที่ทำการเขื่อนวชิราลงกรณ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 

มีนายพนม โพธิ์แก้ว สส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี นางศุภวรรณ วงษ์ประยูร ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ น.ส.ภทรกช เหนือเกตุ ผู้อำนวยการศูนย์บริการจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ด้านที่ดินและทรัพยากร 

พระมหาสุชาติ สิริปัญฺโญ เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี/เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม นายรักษิต ต้วมศรี หัวหน้ากองบำรุงรักษาโยธาเขื่อนวชิราลงกรณ นายนิติธร พุทธธรรมนโม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิ ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ผู้แทน สนง.ทสจ.กาญจนบุรี ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก

ผลการประชุม นายสุริยน รอง ผอ.สคทช.ได้มอบหมายให้นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอสังขละบุรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่กลับไปรวบรวมข้อมูลนำมาเสนอต่อ สคทช.เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้ได้ภาย 180 วันนับจากวันประขุม จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เริ่ม "kick off" ในการเริ่มแก้ปัญหาที่ดิน ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 41 ปีที่มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลมเดิม

ล่าสุดวันนี้ (5 เม.ย.68) นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 ได้ออกมาแจ้งข่าวดีว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อสำรวจ ตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในท้องที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้แนวทางการแก้ไขปัญหา และผลกระทบจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ ในท้องที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 (one map)และผลกระทบจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐมีการบริหารจัดการที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม 

ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ จึงอาศัยหน้าที่และอำนาจตามความในมาตรา 10 (7) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2567 จึงแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสำรวจ ตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในท้องที่อำเภอสังขละบุรีและอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

1.นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงาน นายสุจิตร จันทร์สว่าง ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นายสาคร รุ่งเรือง ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ, ผู้แทนกรมแผนที่ทหาร, ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์, ผู้แทนกรมป่าไม้, ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, ผู้แทนกรมพัฒนาที่ดิน, ผู้แทนกรมธนารักษ์, ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม, นายอำเภอที่รับผิดชอบพื้นที่, เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี, ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่รับผิดชอบ, ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่รับผิดชอบ, ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี, ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบพื้นที่, ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ที่รับผิดชอบ, เป็นคณะทำงาน นายมูฮัมหมาด ยังหะสัน เป็นคณะทำงานและเลขาอนุการ, นายชัชฤทธิ์ สมเชื้อ และนายภาคภูมิ บัวตูม เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ

โดยให้คณะทำงานมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ 

2.1 ดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริงพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาและผลกระทบจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ ในท้องที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเสนอต่อผู้อำนวยการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป 

2.2 ประสานติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้องในท้องที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

2.3 เชิญผู้แทนส่วนราชการหน่วยงานของรัฐมาให้ข้อมูล ความเห็น หรือคำแนะนำ และจัดส่งเอกสารหลักฐานหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาตามที่เห็นสมควร 

2.4 ตั้งคณะทำงานย่อยหรือชุดปฏิบัติงานเพื่อดำเนินการตามที่คณะทำงานเฉพาะกิจมอบหมาย 

2.5 รายงานผลการปฏิบัติงานให้ผู้อำนวยการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อรายงานนายกรัฐมนตรี ทราบเป็นระยะ

และ 2.6 ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติมอบหมาย