ป้องกัน"สับสน" "รองผู้ว่าฯกทม."ย้ำ!ยึดยอดเสียชีวิตจากผลตรวจนิติเวช เผยคืบหน้ารื้อซากแล้ว 3.5 พันตัน วันนี้ขุดถึงโถงบันไดโซน B,C คาดจะพบร่างผู้ติดค้าง ส่วนยอดแจ้งเยียวยาทุกเขต กทม.ทะลุ 4 หมื่น ตัดยอดเร่งตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) แถลงสถานการณ์ความคืบหน้าปฏิบัติการเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างถล่ม ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร
ผอ.สปภ.กล่าวในส่วนการปฏิบัติงานแผนงานวันนี้ยังคงต่อเนื่องจากเมื่อวาน บริเวณโซน B ได้รื้อทาวเวอร์เครนที่เป็นเหล็กออกและค้นหา นำปูนถมทับเป็นฐานให้เครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ช่วยรื้อโซน B และ C รวมทั้งชิ้นส่วนขนาดใหญ่ด้านบนที่มีโอกาสจะสไลด์ลงมาทุกด้านเป็นอันตรายกับผู้ปฏิบัติงานด้านล่าง ความคืบหน้าคาดว่าจะขุดเข้าไปถึงโถงบันไดทั้งโซน B และ C ที่คาดว่าจะมีผู้ติดค้างอยู่ จากที่ได้ข่าวจากผู้รอดชีวิตว่าวิ่งหนีออกมาพร้อมกับเพื่อนจำนวนมากมาทางเชื่อมกับลานจอดรถ เมื่อหันกลับไปเห็นอาคารถล่มลงมาทับ ส่วนในโซน A และ D ก็ดำเนินการไปคู่กันเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า ในการดำเนินการเครื่องจักรเราใช้ความละเอียดโดยมีทีมมอนิเตอร์ช่วยดู ประกอบกับมีทีมโดรนคอยช่วยบินสำรวจเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประสบภัย และก่อนนำชิ้นส่วนเหล็กและปูนออกมา ทีม K9 จะเข้าไปช่วยค้นหาในซากนั้นอีกครั้ง
รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวในส่วนการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิต ว่า จากนี้ไปจะปรับการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตบนบอร์ดหน้าศูนย์บัญชาการฯ เป็นยึดตามการตรวจสอบยืนยันจากนิติเวชแล้ว เนื่องจากวันนี้ที่ได้มีการปรับยอดผู้เสียชีวิตไปเมื่อ 10.00 น.เป็น 17 ราย เมื่อส่งร่างไปตรวจ DNA ที่นิติเวช ยืนยันผลกลับมาว่ามี 1 ร่าง ที่ไม่ครบมีชิ้นส่วน 2 ร่าง จึงไม่สามารถยืนยันผลรายงานได้ ต้องครบทั้งร่างก่อนจึงจะรายงานยอดได้ จึงขอทำความเข้าใจในการรายงานจากนี้ไปจะยึดผลตรวจสอบยืนยันจากนิติเวชรายงานกลับมาเท่านั้น แม้ว่าจะมีรายงานพบร่างหรือชิ้นส่วนร่างด้านในอาคารจากแหล่งข่าวไหนก็ตาม โดยจะมีการรายงานยอดจำนวนผู้เสียชีวิต เวลา 10.00 น.และ 16.00 น.ของทุกวัน
สำหรับเรื่องการเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีแผ่นดินไหว รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ตั้งแต่วันอังคารนี้ (8 เม.ย.) เป็นต้นไป จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับแจ้งความเป็นกรณีพิเศษที่สำนักงานเขตด้วย เพื่อการแจ้งของประชาชนจะสะดวกขึ้น ในส่วนความเสียหายของอาคารบ้านพักอาศัย จะมีการตัดยอดการลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบเอกสารและลงไปตรวจสอบตามเอกสารที่ยื่น โดยฝ่ายโยธาเขตจะลงไปตรวจเพื่อยืนยันความเสียหายนั้นและจะมีการเบิกจ่ายต่อไป ซึ่งวันพรุ่งนี้ (7 เม.ย.) จะประชุมร่วมกับกรมป่องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อขอส่งเป็นยอดไป ไม่รอรวมทั้งหมด หากรอรวมลงทะเบียนจนถึงวันที่ 27 เม.ย.68 จะเป็นก้อนใหญ่มาก เพราะจากที่เริ่มมีกระบวนการรับแจ้งที่สำนักงานเขต ถึงขณะนี้ทั่วกรุงเทพฯ ทุกเขตรวมกัน เมื่อเวลา 12.00 น. (6 เม.ย.) ตัวเลข 40,000+ เคสมีแล้ว จะตัดยอดตรวจสอบก่อนเพื่อไม่ให้การเบิกจ่ายล่าช้า ในส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ ปภ.กำลังปรึกษากรมบัญชีกลางในการกำหนดรายละเอียดเพดานในการให้ความช่วยเหลือ ขอให้นิดว่าจะมีกาีปรับไปที่เท่าไร มีกระบวนการอย่างไร
นอกจากนี้ ในส่วนหน้างานได้รับการสนับสนุนเครื่องฟอกอากาศเมือง จากสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ นำมาติดตั้งเพื่อช่วยฟอกอากาศให้ผู้ปฏิบัติงาน ญาติๆ และสื่อมวลชนที่คอยติดตามสถานการณ์ในบริเวณ โดยเครื่องฟอกฯ จะทำงานครอบคลุมพื้นที่ 1 - 3 ตร.กม.เพราะฝุ่นจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ เรามีการฉีดน้ำหนักมากในหลายๆ รอบ
"การทำงานปรับแผนเป็นการรื้อถอนมากขึ้น แต่ถ้าเห็นโพรงก็จะหยุดเพื่อค้นหา มีความก้าวหน้ามากขึ้น ทีมโดรนคำนวนจากคอมพิวเตอร์ ประมานการจากภาพถ่ายเทียบวันแรกกับปัจจุบัน ซากชิ้นส่วนหายไป 3,500 ตัน คาดว่าน่าจะใช้เวลารื้อถอนเป็นเดือน เรารู้อยู่แล้วว่านานวันไป การที่ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ กระบวนการพิสูจน์ก็จะยิ่งนานขึ้น ก็พยายามเร่งมือเต็มที่ และพยายามรวบรวมหลักฐานอื่นๆ ด้วย เช่น กระเป๋า กางเกง รองเท้าที่เจอ มีการบันทึกเพื่อเชื่อมโยงหลักฐานแวดล้อมในการระบุตัวตน รวมถึงพยายามควบคุมอนามัยบริเวณด้านในในกับผู้ปฏิบัติงานด้วย" รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี