‘ดีเอสไอ’เตรียมประสานกทม. ลงพื้นที่‘ตึก สตง.’ถล่ม พร้อมกรมโยธาธิการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตั้ง‘พ.ต.ท กรวัชร์’อดีตอธิบดี DSI ร่วมคณะที่ปรึกษาคดี เผย 8 เม.ย.เรียกผู้รับเหมาช่วง 28 โครงการ ให้รายละเอียดบริษัทไชน่าฯว่าจ้าง ฝาก 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทยเข้าให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ดีกว่าซ่อนตัวเงียบ ระบุขยายผลฐานฟอกเงินได้ หากพบความผิดมูลฐาน
7 เมษายน 2568 พ.ต.ต.วร ณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบ สวนคดีพิเศษ(DSI) ลงนามหนังสือคดีพิเศษที่ 32/2568เพื่อให้สอบสวนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือนอมินี กรณีบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน( สตง.)แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่28มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนนั้น
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า คณะพนัก งานสอบสวนคดีพิเศษมีมติเรื่องการลงพื้นที่สถานที่เกิดเหตุให้ประสานกับทางกรุงเทพ มหานคร โดยจะทำหนังสือประสานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเข้าพื้นที่และประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นต้น แต่เนื่องจากตอนนี้ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญอันดับแรกคือการบรรเทาสาธารณภัย แต่เราก็ต้องประสานการปฏิบัติเรื่องพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ซึ่งหากดีเอสไอได้รับการประสานเพื่อเข้าพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง คาดว่าเจ้าหน้าที่กรมโยธาฯ จะดูในเรื่องของโครงสร้างโดยขณะนี้อยู่ระหว่างอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามหนังสือ นอกจากนี้ ดีเอสไอก็จะต้องประ สานกับสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม(สมอ.)ที่ดูเรื่องเหล็กและปูน เพื่อขอเอกสารสรุปผลรายงานการตรวจสอบคุณภาพเหล็กเส้นที่ใช้ในโครงการก่อสร้างด้วย
พ.ต.ต.วรณัน เผยต่อว่า ตนอยากประชาสัมพันธ์ขอให้กรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทยทั้ง 3 ราย ให้ความร่วมมือเข้าพบพนักงานสอบ สวนคดีพิเศษเพื่อให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เพราะการหลบซ่อนย่อมไม่เป็นผลดี อีกทั้งตอนนี้ยังไม่ได้มีใครเป็นผู้กระทำผิด เพียงแต่ต้องมีการอธิบายถึงสถานะการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจขนาดใหญ่แบบนั้น นอกจากนี้ การสอบ สวนจะขยายผลว่าปรากฏเข้ามูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงินด้วยหรือไม่ ทั่งนี้ หากมีประเด็นเรื่องคดีฮั้วประมูลเกิดขึ้น ก็จะเข้าข่ายตาม 28 ประเภทความผิดกฎหมายฟอกเงิน
พ.ต.ต.วรณัน ยังเผยถึงความคืบหน้าเรื่องการเสนอแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะปรึกษาคดีพิเศษ โดยมติของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า สำหรับคณะปรึกษาคดีพิเศษ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา รวม 6 ราย ประกอบด้วย ที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนและการฟ้องคดี 2 คน คือ 1.นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ ผู้ตรวจการอัยการ 2.นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด
3.พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสอบสวนคดีพิเศษ
4.น.ส.กนกไรวินท์ บุรินทร์นันท์ ผู้สอบบัญชีสรรพากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี
5.รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างวิศวกรโยธา เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) - Anti-Corruption Organization of Thailand
6.ดร.ธเนศ ศรีศิริโรจนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างวิศวกรปฐพี เพื่อร่วมทำการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษในทุกมิติ
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า วันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการเรียกสอบปากคำผู้รับเหมาช่วง 28 โครงการ ที่จีนได้มีการว่าจ้างนั้น มีรายละเอียดการว่าจ้างอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกรณีของบริษัท 9PK จำกัด ที่วานนี้ (6 เมษายน) ได้มีผู้รับเหมาช่วงมาร้องเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกเบี้ยวค่าแรง ซึ่งระหว่างนี้พนักงานสอบสวนจะต้องทำการตรวจสอบหนังสือเอกสารสัญญาก่อน เพื่อดูรายละเอียดว่ามีการระบุเรื่องสัญญากันอย่างไรบ้าง สัญญาจ้างรับเหมาช่วงมีเนื้อหาอย่างไร รวมถึงบริษัทดังกล่าวได้เข้าไปรับจ้างเหมาช่วงได้อย่างไร เพราะปกติแล้วกรณีดังกล่าวจะไม่สามารถรับจ้างเหมาช่วงได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี