วธ.เปิดชุมชนวัดไพรพัฒนา 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ ‘เที่ยวชุมชน ยลวิถี’ โชว์อัตลักษณ์ภูมิปัญญาของชุมชนวัดไพรพัฒนา ความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา ชวนนักท่องเที่ยว กราบไหว้หลวงปู่สรวง ดันเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
วันที่ 7 เมษายน 2568 นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดชุมชนวัดไพรพัฒนา 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ ‘เที่ยวชุมชน ยลวิถี’ งานเทศกาลสงกรานต์ ‘สรงน้ำหลวงปู่สรวง’ และศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นานาชาติ วัดไพรพัฒนา นานาชาติ ครั้งที่ 2 โดยมี นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ นายสำเร็จ ไพรบึง นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายทางวัฒนธรรม ผู้แทนนานาชาติ 8 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ไทย เนปาล บังคลาเทศ พม่า ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และอินเดีย เข้าเป็นเกียรติในพิธี
นางศศิฑอณร์ กล่าวว่า ชุมชนวัดไพรพัฒนา เป็นชุมชนที่ 5 ที่ วธ. ดำเนินการเปิดเที่ยวชุมชน ยลวิถีชุมชน จากทั้งหมด 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ ‘เที่ยวชุมชน ยลวิถี’ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งสำหรับชุมชนวัดไพรพัฒนาเป็นชุมชนที่มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา ผู้คนทั้งสองประเทศเชื่อมสัมพันธไมตรีอย่างต่อเนื่อง มีจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำสู่ ‘นครวัด นครธม’ ประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เขมร และมีการแต่งกายที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นที่มีความสวยงาม โดย วัดไพรพัฒนา ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจผู้คน และการจัดกิจกรรมทางศาสนาของชุมชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา ตลอดจนนานาชาติ นอกจากนี้ภายในมณฑปปราสาทมีสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง พระเกจิอาจารย์ผู้ได้รับความศรัทธา ผู้คนมักเรียกท่านว่า ‘เทวดาเดินดิน’ ดังนั้นการมาเยือนชุมชนวัดไพรพัฒนา ถือเป็นสิริมงคล และเริ่มต้นด้วยการเข้ากราบไหว้ขอพรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง ด้วยเครื่องสักการะบูชา กรวยดอกไม้ ขันธ์ 5 ขันธ์ 8
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสเสน่ห์ยลวิถีโดยนั่งรถรางรับส่งฟรีตลอดทั้งวัน ระหว่างวัดไพรพัฒนาและตลาดชุมชนยลวิถี ถนนสายวัฒนธรรมวัดไพรพัฒนา ช้อปสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม เช่น ผ้าไหมตรานกยูงทองพระราชทาน น้ำผึ้งโพรงจากธรรมชาติ ยาสมุนไพร อาหารพื้นถิ่น อาทิ แกงหยวกกล้วย แกงขนุน และขนมพื้นถิ่น เช่น ข้าวต้มด่าง (อันซอมกะบ็อง) ข้าวต้มใบมะพร้าว (อันซอมสะเลิกโดง) และน้ำสมุนไพรอัญชัน นอกจากนี้มีจุดชมวิวผาพญากูปรี มีป่าเขาลำเนาไพร ห้วยสำราญ น้ำตกห้วยสำโรง วัดป่าถ้ำผึ้งดาวดึงส์ และ ค่ายมวย ว.เทคโนหลวงปู่สรวง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ชุมชนวัดไพรพัฒนามีผู้นำและเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมเข้มแข็ง คนในชุมชนมีความสุข ความรักความสามัคคี อนุรักษ์สืบสาน รักษา ต่อยอดวัฒนธรรมของท้องถิ่นไว้อย่างดียิ่ง มีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเป็นอย่างดี
หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปอีกว่า วธ. ดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ชุมชนมาต่อเนื่อง คัดเลือกชุมชนต้นแบบระดับจังหวัดที่มีศักยภาพ ยกย่องเชิดชูเกียรติตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 ปัจจุบันมีสุดยอดชุมชนต้นแบบ ‘เที่ยวชุมชน ยลวิถี’ รวม 40 ชุมชนทั่วประเทศ โดยหลังจากการประกาศแล้ว วธ. มีการต่อยอดด้วยการสนับสนุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาศักยภาพคนในชุมชนผ่านการอบรมผู้นำชุมชน นักเล่าเรื่องและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเยี่ยมชมและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนจัดทำแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ‘เที่ยวเท่ ๆ เสน่ห์เมืองไทย’ ให้นักท่องเที่ยวค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวแต่ละชุมชนได้อย่างสะดวก รวดเร็วมีความแม่นยำ ตามนโยบายกระทรวงวัฒนธรรม ที่มุ่งขับเคลื่อน Soft Power โดยเฉพาะด้านเฟสติวัล - เทศกาลประเพณีและด้านท่องเที่ยวสนองนโยบายของรัฐบาล และ วธ.มีเป้าหมายส่งเสริมคุณค่าและมูลค่าเทศกาลประเพณีของชาติและเทศกาลอื่นๆ ด้านวัฒนธรรมให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย ที่สำคัญมุ่งส่งเสริมเทศกาลประเพณีไทย เพื่อยกระดับสู่ระดับชาติและนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี