8 เม.ย.2568- เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 เมษายน 2568 ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรี พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พันตำรวจเอก เดโช โสสุวรรณากุล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 แถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหา
โดยนายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนสะกดรอยและการข่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้เป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2567 ได้ร่วมกัน จับกุมตัว นางสาวฐิติพร (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของ นายแพทย์บุญ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ต้องหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากหลบหนีการจับกุมในคดีไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 มีผู้กล่าวหาและผู้เสียหาย จำนวนกว่า 605 ราย ปรากฏมูลค่าความเสียหาย 16,100,602,806 บาทโดยกองกิจการอำนวยความยุติธรรม ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมอายัดทรัพย์และส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และได้ดำเนินคดีกับนายแพทย์บุญกับพวกรวม 16 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 13 ราย มีผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายบุญ (สงวนนามสกุล) นางสาวกชพร (สงวนนามสกุล) และนางสาวฐิติพร (สงวนนามสกุล) หลบหนีไปยังต่างประเทศ จึงได้แจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice)
ต่อมาร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ และนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม ได้รับการประสานงานจาก พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าจากการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการเกี่ยวกับผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรในคดีพิเศษนี้ รวม 3 รายดังกล่าว โดยแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ได้รับแจ้งจากทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าได้ควบคุมตัว นางสาวฐิติพรฯ ได้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงรายงานให้ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทราบและได้สั่งการให้ กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ร่วมกับกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ประสานงานร่วมบูรณาการกับกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการประสานกับทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขอความร่วมมือให้พิจารณาผลักดันผู้ต้องหารายนี้กลับมายังประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ซึ่งในวันจันทร์ที่ 7 เมษายน ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เนรเทศผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาเดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเครื่องบินมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้เป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2567 ร่วมกันรับตัวผู้ต้องหาเพื่อส่งมอบให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับ นางสาวฐิติพรฯ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่ถูกจับกุมตัวในคดีพิเศษที่ 136/2567 มีพฤติการณ์เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนโดยการนำเงินมาให้นายแพทย์บุญฯ กู้ยืม ต่อมาไม่จ่ายผลตอบแทน และไม่คืนเงินต้นจึงเกิดความเสียหายในวงกว้าง กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอรับตัว น.ส.ฐิติพร ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับศาลแล้วนั้น จะได้มีการนำตัวไปควบคุมไว้ยังห้องคุมขัง ชั้น 6 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เพื่อสอบสวนปากคำว่าผู้ต้องหาประสงค์ให้การหรือไม่ให้การอย่างไรหรือไม่ รวมถึงจะได้เเจ้งสิทธิของผู้ต้องหาในการขอพบทนายความ หรือบุคคลในครอบครัว โดยพนักงานสอบ สวนมีอำนาจในการควบคุมตัว 48 ชม. ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วที่สุดในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) ไม่เกินช่วงเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะได้นำตัว น.ส.ฐิติพร ไปสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนัก งานคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เพื่อพนักงานอัยการจะได้ดำเนินการส่งฟ้องผู้ต้องหาตามหมายจับต่อศาลอาญา ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลได้ แต่การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่นั้น ถือเป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี