"ช่างเบิร์ด" เข้าพบ พงส.ให้ข้อมูลรายชื่อคนรู้จักในบริษัทร่วมค้าซับคอนแทรครายใหญ่ ตึกสตง. ขณะที่ บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด และ บริษัท 9PK ขอเจรจาจ่ายเงิน 3.7 ล้าน ที่ติดค้างช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้
วันที่ 8 เมษายน 2568 จากกรณีหัวหน้าผู้รับเหมาช่วงก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ และผู้รับเหมากว่า 10 คน รวมตัวกันเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จำกัด และ บริษัท 9PK ซึ่งเป็นบริษัทซับคอนแทค ที่ค้างค่าจ้างผู้รับเหมารวมกว่า 10 ล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุด นายฐิติพงษ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด หัวหน้าวางระบบไฟฟ้าของตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ หลังจากที่ทางกองสอบสวนคดีพิเศษ ได้เชิญเข้ามาให้ปากคำเรื่องถูกบริษัท 9 PK เบี้ยวเงินค่าจ้าง 3.7 ล้านบาท ซึ่งอาจเกี่ยวข้องในคดีนอมินีตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ที่ทางดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษในการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10
ภายหลังจากที่"ช่างเบิร์ด"เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่นานกว่า 3 ชั่วโมง ช่างเบิร์ด เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้เชิญตนเข้ามาให้ปากคำเพื่อสอบถามว่ารู้จักบุคคลใดบ้างของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และ บริษัท 9PK รวมไปถึงบุคคลอื่นๆที่ตนรู้จัก เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ซักถามไปเพื่อรวบรวมรายชื่อหานอมินีของบริษัทดังกล่าว เพราะทางดีเอสไอรับทำเป็นคดีพิเศษแล้ว
ที่ผ่านมา บริษัทของตนได้รับการว่าจ้างจากบริษัท 9PK ในช่วงต้นปี 2567 และได้เริ่มเข้าดูแลเร้องไฟตั่งแต่ชั้นใต้ดินไปจนถึงชั้นที่ 30 ในการขอเบิกค่างวดแต่ละครั้งเพื่อนำมาซื้อวัสดุอุปกรณ์หรือค่าจ้าง บริษัท 9PK จะจ่ายเงินให้ไม่เต็มกับค่างวดที่ขอเบิกไป โดยจะได้เพียง 40% เท่านั้น และติดค้างเงินตนรวมเป็นเงินจำนวน 3.7 ล้านบาท ทำให้การเงินของตนติดขัดต้องหาเงินด้วยการเอาทนัพย์สินส่วนตัวไปจำนองเอามาสำรองจ่ายจนเป็นหนี้สิน
เมื่อมาถึงการเบิกเงินค่างวด (เปย์เม้นท์) ครั้งที่ 22 ถึงแม้จะทวงเงินไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินจากบริษัท 9PK เลย ตนจึงพาลูกน้องกลับไม่รับทำในช่วงเดือนมกราคมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้น เมื่อทวงถามหาเงินไม่เคยได้รับเงินจากบริษัท 9PK เลย ตั้งแต่ขอกลับถูกบริษัท 9PK ผลัดงวดและมีข้ออ้างทุกครั้ง จนตนรับไม่ได้และออกมาประท้วงเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนมากลายเป็นประเด็นดังกล่าว
ช่างเบิร์ด ยังเผยอีกว่า ช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย. 68) ตนจะเดินทางไปยังสน.บางซื่อ เพื่อเข้าให้ปากคำในคดีที่ตนเบี้ยวเงินค่าจ้างตามที่กำหนด และในช่วงบ่าย บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และ บริษัท 9PK ยังได้นัดตนไปเจรจาเรื่องเงินที่ติดค้างอยู่ประ มาณ 3.7 ล้านบาทไม่รวมภาษี ที่ หน้าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จตุจักร ซึ่งตนหวังว่าจะได้รับเงินทั้งหมดมาเป็นเงินก้อนเพื่อไปปลดหนี้ที่ได้นำทรัพย์สมบัติไปจำนองไว้ โดยไม่หวังเงินค่าเสียหายเพิ่มเติม
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า ตอนนี้ยังรับทำแค่คดีนอมินีเพียงคดีเดียว ซึ่งหลังจากที่ทำการสืบสวนสอบสวนหากทราบว่าตึกสตง.มีเค้าโครงว่าการแข่งขันราคาไม่เป็นธรรมก็จะนำเข้าสู่เรื่องการฮั้วประมูล รวมไปถึงวัสดุสิ่งก่อสร้างต่างๆว่าได้คุณภาพหรือไม่ จะเป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ว่าได้ มาตรฐานอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ สำหรับ 2 เรื่องดังกล่าว ทางดีเอสไอมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะรับเป็นคดีพิเศษได้อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างจะต้องเพียบพร้อมโดยเฉพาะข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับตึกสตง.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี