‘ดีเอสไอ’ถก 3 หน่วยงานปม‘ตึก สตง.ถล่ม’ วางทิศทางทำงานเป็นเอกภาพ‘โฆษกดีเอสไอ’วอน 3 ชายไทยถือหุ้นไชน่าฯแสดงตัว รับกังวลเรื่องความปลอดภัย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 เมษายน 2568 ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเลขที่ 32/2568 ประชุมร่วม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม , กรมโยธาธิการและผังเมือง และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลของกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ถล่ม
พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกรณีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ถล่ม ประกอบด้วย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ , สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งในส่วนของคดีอาญาจะมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทำหน้าที่ดำเนินการสอบสวนอยู่แล้ว เพื่อดำเนินคดีผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งได้มีการเก็บหลักฐานไปแล้วก่อนหน้านี้
ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ นอกจากเรื่องของตรวจสอบตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี)แล้ว จะตรวจสอบเรื่องของการเสนอราคาอย่างไม่เป็นธรรม(ฮั้วประมูล) ด้วย รวมไปถึงเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นไปตามมาตร ฐานหรือไม่ โดยเฉพาะเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดเป็นคดีที่เกี่ยวพันกัน จึงต้องมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การทำงานเป็นเอกภาพไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะต้องอาศัยหน่วยงานที่มีผู้เชี่ยว ชาญเฉพาะด้านนำข้อมูลที่รวบรวมได้ก่อนหน้านี้มาพิจารณาตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อลดระยะเวลาและไม่เกิดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน
พ.ต.ต.วรณัน บอกต่อว่า การลงพื้นที่วันนี้หลังจากผ่านมาเข้าสู่ช่วงการใช้เครื่องจักรหนักในการรื้อถอนวัสดุ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีความจำเป็นต้องลงพื้นที่รีบเก็บพยานหลักฐานเพราะอาจจะสูญหาย เนื่องจากในช่วงแรกเป็นเรื่องของการเร่งช่วยเหลือผู้สูญ หายและเริ่มเบาบางลงแล้ว จึงเป็นที่มาเรียกประชุมทั้ง 3 หน่วยงานในวันนี้เพื่อกำหนดประเด็นทำงาน
ส่วนระยะเวลาที่ผ่านมาแล้วจะกระทบกับหลักฐานที่ทางดีเอสไอสามารถเก็บได้ไปหรือไม่นั้น พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่มีผลกระทบ ซึ่งในส่วนของหลักฐานสำคัญทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมไว้แต่วันแรกแล้ว และในส่วนของคดีนอมินีตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอยู่ โดยทางหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนจะแถลงข่าวความชัดเจนให้ทราบอีกครั้งภายหลัง
“ขณะที่ชายสัญชาติไทย 3 คน ที่มีมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทไชน่าฯ ตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาและอยากให้แสดงตัว เนื่องจากยอมรับเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัย เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่มีความเป็นกังวล และขอไม่ลงรายละเอียด แต่การหายตัวไปนานๆ ก็น่าเป็นห่วงเพราะอาจมีหลายสาเหตุ และในฐานะที่ทั้ง 3 รายเป็นคนไทย อยากให้ออกมาแสดงตัวตนเพราะประเทศไทยได้รับผลกระทบเยอะ เพื่อมาทำหน้าที่ของคนไทย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเร่งติดตามอยู่” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี