ปทุมธานี ตร.ไล่ล่าก่อนตามรวบแก๊งข้ามชาติ ยกตู้เซฟกวาดทรัพย์สินบ้านเศรษฐีรวมมูลค่ากว่า5ล้านบาท
วันที่ 9 เมษายน 2568 จากกรณีเมื่อกลางดึก วันที่ 6 เม.ย. 68 พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากนางดวงดาว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ว่ามีเหตุคนร้ายเข้ามาโจรกรรมทรัพย์ภายในบ้าน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เกษม ศรีจันทร์อินทร์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ต.วุฒิวรพงษ์ แหวนประดับ สวป.ฯ พ.ต.ท ธไท ศลิษฏานนท์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สงค์การณ์ สมจิตร สว.สส.ฯและสายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีร่องรอยของหน้าต่างและประตูถูกงัดและมีการรื้อค้นทรัพย์ภายในบ้านข้าวของกระจัดกระจาย รวมทั้งที่พื้นบ้านมีรอยครูดคล้ายกับมีการลากของหนัก ซึ่งจากการสอบถามผู้เสียหายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านไปเมื่อเวลาประมาณ 16.55 น.และได้กลับเข้ามาบ้านเวลาประมาณ 20.00 น.ก็พบว่ามีคนร้ายแอบเข้ามาลักทรัพย์ตู้เซฟและทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของทางหมู่บ้านและของบ้านที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายมีลักษณะเป็นชาวต่างชาติ จำนวน 4 คน โดยได้ลงจากรถเก๋งที่มาจอดหน้าบ้าน 3 คนและนั่งรออยู่ในรถ 1 คน หลังจากทำการโจรกรรมได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายไปแล้วจึงได้ขับรถหลบหนีไป
โดยเมื่อช่วงเช้าเมื่อวาน 8 เมษายน พ.ต.อ วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ได้มีการ เรียกประชุมชุดสืบสวนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากที่มีการประชุมเสร็จแล้ว พ.ต.อ วิวัฒน์ ผกก.ฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้สั่งการและกำชับให้เร่งรัดติดตามจับกลุ่มแก๊งต่างชาติรายนี้ให้ได้โดยเร็วและให้เร่งรีบประสาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพราะเกรงว่าแกงค์คนร้ายอาจจะมีการหลบหนีออกนอกประเทศ
หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบและเช็คทะเบียนรถคันที่คนร้ายใช่ก่อเหตุ จึงทราบว่ารถคันดังกล่าวนั้นได้มีชาวเปรูเป็นผู้ไปทำการเช่า ที่เต็นท์รถเช่าแห่งหนึ่งในย่านดินแดง กรุงเทพมหานคร ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจสอบจนทราบว่าผู้เช่านั้นเป็นใครและได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้เช่า
โดยทางเต็นท์รถ กล่าวว่า ผู้เช่านั้นมาขอเช่าทำสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ถึงวันที่ 9 เมษายน 2568 หลังจากที่ได้ข้อมูลของผู้เช่าแล้ว จึงได้รีบประสานไปยัง ตำรวจ สนง.ตม เพื่อประสานไปยัง ตม.ทุกที่ จนกระทั่ง เมื่อวานนี้ (7 เม.ย.)ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ ตม.หนองคาย ว่าพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยตามภาพวงจรปิดซึ่งเป็นชาวต่างชาติ จำนวน 4 คน เป็นชาวโคลัมเบีย 3 คนและชาวเปรู 1 คน ที่มีลักษณะรูปพรรณสันฐาน คล้ายกับแกงค์คนร้ายที่เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ในพื้นที่ สภ.เมืองปทุมธานี กำลังจะเดินทางออกไปยังประเทศลาว หลังจากนั้นจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ร่วมกับ ชุดสืบสวน กก.ภาค 1 เดินทางไปตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินในพื้นที่ สภ.เมืองปทุมธานี จริง ก่อนที่ทาง ตม.หนองคาย จะได้ทำการตรวจสอบประวัติและหนังสือการเดินทางทั้งหมด พร้อมกับนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หนองคาย
จากนั้นจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนพร้อมของกลางกลับมาที่ สภ.เมืองปทุมธานี ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหลังจากที่นำผู้ต้องหาเดินทางกลับมาถึง สภ.เมืองปทุมธานี ในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) อีกครั้ง
ทางด้าน นางดวงดาว (พี่หน่อย) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและครอบครัวได้ออกจากบ้านไปทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง เมื่อเวลาประมาณ 16.55 น.และได้กลับเข้ามาบ้านเวลาประมาณ 20.00 น.ก็พบว่ามีคนร้ายแอบเข้ามาลักทรัพย์สินรื้อข้าวของภายในบ้านและยกตู้เซฟที่มีน้ำหนัก 40 กก. โดยเบื้องต้นทรัพย์สินที่หายไปมีทั้ง สร้อยคอทองคำต่างหูเพชร แหวนเพชรพระเครื่องเลี่ยมทอง นาฬิกาข้อมือ กระเป๋าแบรนด์เนม เงินสดสกุลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตนจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งไปยัง พ.ต.อ วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี นำกำลังตำรวจมาตรวจสอบ และจากการตรวจดูจากกล้องวงจรปิด พบเห็นคนร้ายในช่วงเวลา 17.03 น. ได้ขับมีคนร้ายเป็นชาวต่างชาติได้ขับรถยนต์ มาจอดหน้าบ้านตน ซึ่งคล้ายกับมาคอยเฝ้าสังเกตุการณ์และดูลาดราวไว้แล้ว พอสบโอกาสที่ตนและครอบครัวขับรถออกจากบ้านไป จึงได้รีบลงมือก่อเหตุ โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีพร้อมยกตู้เซฟขึ้นรถหลบหนีไปทันที
จนกระทั่งเช้า (8 เม.ย.) ตนได้รับแจ้งจากทาง ผู้กำกับ สภ.เมืองปทุมธานี ว่าสามารถติดตามจับกลุ่มแกงค์คนร้ายได้พร้อมยึดของกลางมาได้ แม้ของกลางไม่ครบแต่ตนก็มีความรู้สึกดีใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานและประสานงานกันอย่างรวดเร็ว จึงต้องขอขอบคุณและชื่นชมมายัง ตำรวจ โดยเฉพาะทาง สภ.เมืองปทุมธานีและทุกหน่วยงานที่ได้ช่วยกันในการติดตามจับกุมแกงค์คนร้ายครั้งนี้
ล่าสุด ที่สภ.เมืองปทุมธานี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว1. Mr.RAUL FERNEY NINO QUITIAN อายุ 64 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย 2. MT.NELSON ANDES MALO ROJAS อายุ 46 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย 3. MT.LUIS GUILLERMO CASTILLO ROMERO อายุ 65 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย 4MT.SANDRO MIRANDA POMALIA อายุ 29 ปี สัญชาติ เปรู พร้อมด้วยของกลางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ตู้เซฟสีบรอนด์1ใบ กระเป๋าสุภาพสตรี นาฬิกา สร้อยทองรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆอีกว่า100รายการ รวมมูลค่ากว่า5ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ขณะหลบหนีอยู่ที่จ.หนองคายเพื่อเตรียมหลบหนีไปยังประเทศลาว โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 20.00 น.ตำรวจสภ.เมืองปทุมธานีได้รับแจ้งจาก นางดวงดาว ว่าถูกคนร้ายก่อเหตุลักทรัพยืภายในบ้านพักโดยคนร้ายได้เป็นตู้เซฟและทรัพย์สินมีค่าเช่า สร้อยคอทองคำ , แหวนเพชร , นาฬิกา และพระเครื่อง หายไปรวมมูลค่าประมาณ 5,00,000 บาทหายไป
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบก้ลองวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย4คนเป็นชาวต่างชาติ ได้ขับขี่รถยนต์ เข้ามาหน้าบ้านก่อนที่คนร้ายปืนรั้วเข้าไปในบ้านแล้วไปงัดแงะหน้าต่างบริเวณหลังบ้านเข้าไปโจรกรรมลักเอาตู้เชฟและทรัพย์สินอื่นแล้วได้หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค ๑ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดปทุมธานี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ ฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปทุมธานี เพื่อสกัดกั้นการหลบหนีจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ในคดีนี้เป็นชาวต่างชาติ สัญชาติ โคลัมเบีย จำนวน3 คน และสัญชาติ เปรู จำนวน 1คน รวม 4 คน ได้แก่1. Mr.RAUL FERNEY NINO QUITIAN อายุ 67 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย (ทำหน้าที่เข้าไปลักทรัพย์ในบ้าน) 2. MT.NELSON ANDES MALO ROJAS อายุ 46 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย (ทำหน้าที่เข้าไปลักทรัพย์ในบ้าน) 3. MT.LUIS GUILLERMO CASTILLO ROMERO อายุ 65 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย (ทำหน้าที่คอยส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ผู้ก่อเหตุทราบ)4. MT.SANDRO MIRANDA POMALIA อายุ 29 ปี สัญชาติ เปรู (ทำหน้าที่เช่ารถและขับมาก่อเหตุ) จากการสืบสวนพบพยานหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มแก๊งโจรกรรมแก้งนี้ได้ออกอาระวาดเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินตามวันเวลาที่เกิดเหตุจริง จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดปทุมธานี ออกหมายจับและสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่จังหวัดหนองคายขณะที่กำลังจะหลบหนีออกไปยังประเทศลาว ได้พร้อมของกลางของผู้เสียหายจำนวนมาก
จากการขยายผลผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้มาเช่าบ้านอยู่แถว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร และทำการเช่ารถออกตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านจัดสรรที่มีราคาแพงไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโดยขับเข้ามาภายในหมู่บ้านแล้วพบเห็นผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังขับรถออกไปพอดี จึงจอดรถและลงไปกดกริ่งอีกครั้งเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน ก่อนจะปีนรั้วเข้าไปงัดประตูบ้านชั้น1จนได้รับความเสียหายแล้วลักทรัพย์สินภายในบ้านไป โดยหลังเกิดเหตุได้นำตู้เชฟของผู้เสียหายไปทิ้งที่บริเวณคลองประเวศบุรีรมย์ลาดกระบัง และนำรถยนต์เช่าที่ใช้ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณ ถนนกำแพงเพชร7 แขวงเขตสวนหลวง ทั้งนี้ยังทราบอีกว่าคนร้ายที่เป็นชาวเปรูเป็นคนเข้ามาในประเทศก่อน ก่อนที่จะมาเจอชาวโคลัมเบียร์อีก3คนที่เข้ามาในประเทศไทยผ่านประเทศลาว ก่อนที่จะมาเจอกันที่ถนนข้าวสารจากนั้นก็ร่วมกันตระเวนลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นขบวนการชาวต่างชาติที่น่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน หลังจากนี้ทางตำรวจได้มีการประสานทางล่ามเพื่อเร่งสอบปากคำผู้ต้องหาแบบแยกสอบอย่างละเอียดเพื่อหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี