รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น.....เรื่องของเคราะห์ซ้ำกรรมซัด สำหรับประเทศไทยที่ทั้งความวัวความควาย เข้ามาซัดกระหน่ำโดยพร้อมเพรียงกัน เรื่องของตึกที่ทำการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ถล่มทลายลงมากองกับพื้นจากการเกิดแผ่นดินไหว ในประเทศเมียนมา ในขณะที่ตึก หรืออาคารสูงอื่นๆ แม้จะได้มีการแตกร้าวบ้างแต่ไม่ถึงกับถล่มทลายลงมากองเป็นเศษอิฐเศษปูน และเศษเหล็ก อย่างอาคาร 30 ชั้น ของสำนักงานการตรวจ เงินแผ่นดิน.....ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถกู้ร่างกายของคนงานผู้เสียชีวิต ออกจากซากตึก และที่สำคัญ จำเลยของการถล่มทลายของตึกสตง. ในครั้งนี้จำเลยในสายตาและความรู้สึกของคนไทย คือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10ฯ บริษัทก่อสร้างสัญชาติจีน ที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัทร่วมค้า ที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อาคารสำนักงานของสตง. และ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ถึงความผิดพลาด ในการถล่มทลาย ของตึกสตง. ว่าเกิดจากความผิดพลาดของใคร และมาจากสาเหตุอะไร..... เช่น ผิดแบบหรือแก้แบบ หรือวัสดุ อุปกรณ์ ที่ใช้ในการก่อสร้าง ไม่มีคุณภาพ ไม่เป็นไปตามสัญญาทีโออาร์ และบริษัทที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการก่อสร้างที่สตง.ว่าจ้าง ให้ทำหน้าที่ควบคุมการดำเนินการ
ซึ่งขณะนี้รัฐบาล ยังไม่มีคำตอบ ให้กับประชาชน เจ้าของภาษี ที่ใช้ในการก่อสร้าง อาคารสำนักงานของสตง. ที่กลายเป็นกองขยะอย่างมหึมา เพื่อประจาน ถึงความชุ่ย ที่อาจจะมีเรื่องส่วย ในการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นจากการก่อสร้าง อาคารที่ทำงานของ สตง. ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปได้หมด สำหรับประเทศไทย ที่หน่วยงานราชการยังเต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่น และเป็นเรื่องที่รัฐบาลของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ ในการที่จะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ที่ชัดเจน ที่สำคัญที่ทำให้ประชาชน ทำการวิพากษ์วิจารณ์ การถล่มทลายของ สตง.หรือ อาคารที่ทำการของสตง. เพราะสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีหน้าที่ในการตรวจสอบ การใช้เงินหรือการใช้งบประมาณ ของหน่วยงานราชการทั้งประเทศ ว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น หรือใช้เงินงบประมาณ อย่างถูกต้องและโปร่งใสหรือไม่

แต่เมื่อตึกที่ทำการของสตง.เกิดถล่มทลาย สายตาของประชาชน จึงมองสตง. ด้วยความเคลือบแคลง ถึงความโปร่งใสที่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่น ของสตง. ที่รัฐบาล และสตง. ต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่าการถล่มทลายที่เกิดขึ้นกับอาคารที่ทำการของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มาจากสาเหตุอะไร และที่ประชาชน ต้องการเห็นคือต้องมีการนำคนผิด มาลงโทษด้วย.....และเห็นด้วยกับที่กรมสืบสวนพิเศษ หรือดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ ในการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาสาเหตุ และผู้รับผิด มาลงโทษ รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนเพื่อลงลึก ในเรื่องของการจัดตั้งบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ที่มีคนไทย เป็นนอมีนี โดยไม่มีสถานะของผู้ถือหุ้น ในกิจการที่ต้องใช้เงินทุน.....และที่หนักหนาสาหัส ที่ตามมา สำหรับประเทศไทยคือการที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้าส่งออก จากประเทศไทยเป็น 37% และทันทีที่มีการประกาศการขึ้นภาษี ทำให้จีดีพี ของประเทศ หดตัวทันที่ 1% ความคาดหวัง ที่จะเห็นจีดีพีของประเทศ โต 3% เป็นอันหมดหวัง และ นับแต่วันที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ การส่งออกสินค้า ในบัญชี ที่ถูกขึ้นภาษี จะต้องเสียภาษี ในอัตราใหม่ ทันที จนกว่าจะมีการเจรจา กับประเทศสหรัฐอเมริกา สำเร็จ นี่คือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวพันกับเศรษฐกิจ ของประเทศ และเกี่ยวกับปากท้องของประชาชน เพราะถ้าจีดีพีของประเทศลดลงเหลือ 1 กว่าๆ หรือแค่ 2% นั้นหมายถึงหายนะ ครั้งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย ซึ่งขณะนี้
เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย อยู่ในอาการซึมกระทือ ไม่มีอะไรที่กระเตื้องขึ้นแม้ว่ารัฐบาล จะมีการแจกเงิน ให้ประชาชน เพื่อการใช้จ่ายไปแล้ว คนละ 10,000 บาท ถึง 2 รอบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจ ของประเทศมีการกระเตื้อง ขึ้นแต่อย่างใด เมื่อมาเจอมาตรการ ของภาษีในการส่งออก ครั้งนี้ ถามว่าประเทศไทย จะไปต่ออย่างไร.....ชมกันมามากว่าท่าน สว.ของ จ.สมุทรสาคร รับการร้องเรียนว่าคอกน้ำมันเถื่อนที่ จ.สงขลา อยู่ที่ไหน พร้อมนำเจ้าหน้าที่นำกำลังบุกเข้าทลายคอกน้ำมันเถื่อนได้สำเร็จ ได้น้ำมันเถื่อน จำนวนหนึ่ง นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก...แต่ชาว จ.สมุทรสาคร เคยมีการร้องเรียนเรื่องแรงงานเถื่อน และ ผับเถื่อน ใน จ.สมุทรสาคร มีมากน้อยแค่ไหน แถมเรื่องยาเสพติดมีการระบาดหนักหรือไม่ เรื่องนี้ ท่าน สว.จะทราบหรือไม่ ถ้าทราบ แล้วดำเนินการได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ....นี่ก็ร้องมาให้ สว.ได้ยินไหม ว่าที่บ้านโคกทราย อ.ป่าบ่อน จ.พัทลุง มีการเปิดบ่อนการพนันใหญ่โต ท่าน สว.ที่เคยจับน้ำมันเถื่อน ลองไปตรวจสอบหน่อยครับ...