ตร.แถลงผลปราบปรามการฟอกเงิน 2 ไตรมาส ยึดทรัพย์ จากการกระทำผิด 1.9 พันล้านบาท ส่วนการกระทำผิดเกี่ยวกับ บุหรี่ไฟฟ้า จับผู้ต้องหา 2,337 ราย ยึดของกลาง 1,610,443 ชิ้น มูลค่า 296 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.และผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) ร่วมกับนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยพจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 และเลขานุการ ศปปง.ตร. พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 แถลงผลการระดมกวาดล้างปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์-6 เมษายน 2568 โดย พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการปราบปราม และการบังคับใช้กฎหมายกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยมอบหมายให้ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า และให้ทุกหน่วยงานบูรณาการในการกำหนดมาตรการควบคุม ปราบปรามการครอบครอง และการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานของ ศปปง.ตร.ปีงบประมาณ 2568 ในห้วง 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567-31 มีนาคม 2568 ได้ปราบปรามผู้กระทำความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งมีผลการดำเนินคดีอาญาฟอกเงิน ในภาพรวม 252 คดี และสามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ 1,902,710,831.63 บาท
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ในส่วนของการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตามนโยบายรัฐบาล ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เร่งปราบปราม โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้า การครอบครอง และจำหน่าย นอกจากนี้ได้ประสานความร่วมมือกับ ปปง.ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ลักลอบเก็บอุปกรณ์ การนำออกไปจำหน่าย และการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเข้าข่ายความผิดมูลฐานลักลอบหลบหนีศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ปัจจุบันมีผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์-6 เมษายน 2568 สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 2,337 ราย ยึดของกลาง 1,610,443 ชิ้น มูลค่า 296,170,159 บาท จำแนกเป็นคดีสำคัญรายใหญ่ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ 22 คดี ยึดของกลาง 839,948 ชิ้น มูลค่า 202,863,310 บาท
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยในสังกัด ทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบมิให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบนำเข้า จำหน่าย ครอบครอง หรือเป็นแหล่งซุกซ่อน หากพบการกระทำความผิด ให้สืบสวนขยายผลให้ได้ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน จนนำไปสู่การดำเนินคดีตามมูลฐานความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน ทุกกรณี ส่วนประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที ผ่านสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายกมลสิษฐ์ กล่าวว่า ในการดำเนินการตามกฎหมาย ปปง.เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า หากเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร จะเป็นความผิดมูลฐาน นำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สินได้ โดยสามารถดำเนินการได้ 2 แนวทาง คือการดำเนินคดีอาญา ในความผิดมูลฐานฟอกเงิน และดำเนินการทางแพ่ง ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี