อธิบดีฝนหลวงฯ สั่งลุยบรรเทาฝุ่นภาคเหนือต่อเนื่อง ไม่เว้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดินหน้าทำฝนหลวง ช่วยพื้นที่เกษตรทุกภูมิภาค และบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บ
วันนี้ (10 เม.ย.) นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือยังอยู่ในระดับปานกลาง จนถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งกรมฝนหลวงฯ โดยหน่วยดัดแปรสภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ และจังหวัดพิษณุโลก จึงวางแผนปฏิบัติการด้วยเทคนิคการก่อเมฆ เลี้ยงเมฆให้อ้วน เพื่อดูดซับและระบายฝุ่นออกจากพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงใช้เทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผันด้วยการสเปรย์น้ำเย็นเพื่อระบายฝุ่นออกจากชั้นอุณหภูมิผกผัน ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติการช่วยพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา ตาก เชียงราย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ และกำแพงเพชร ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองลดลงในระดับหนึ่ง และมีฝนตกบริเวณพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่กำลังจะมาถึง ทางกรมฝนหลวงฯ จะยังคงปฏิบัติภารกิจบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็กทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนอากาศสะอาดให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้กันอย่างปลอดภัย
นายราเชน กล่าวอีกว่า นอกจากภารกิจการบรรเทาฝุ่น PM2.5 แล้ว ขณะนี้ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีความต้องการมาตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.2568 และในเดือน เม.ย.นี้ มีการปรับแผนตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงประจำเดือน เม.ย.รวม 5 หน่วย ได้แก่ หน่วยฯ จังหวัดนครราชสีมา หน่วยฯ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยฯ จังหวัดนครสวรรค์ หน่วยฯ จังหวัดจันทบุรี และหน่วยฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะเน้นช่วยพื้นที่การเกษตรที่กำลังเตรียมเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก และเติมน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำต่ำกว่า 30% สำหรับผลปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.–7 เม.ย.2568 พบว่า ปฏิบัติการฝนหลวงไปแล้ว 32 วัน 256 เที่ยวบิน มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง 47.63 ล้านไร่ มีฝนตกในพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 14 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง-เล็ก 37 แห่ง ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสม 34.34 ล้านลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ ตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงสัปดาห์นี้ประเทศไทยตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้มีการตั้งหน่วยยับยั้งพายุลูกเห็บ 3 หน่วย ได้แก่ หน่วยฯ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเฝ้าระวังการปฏิบัติการบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บ โดยใช้เครื่องบินปรับความดัน Super King Air และเครื่องบิน Alpha Jet ปฏิบัติการเพื่อให้ตกเป็นฝน ลดความรุนแรงและความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 1 มี.ค.–7 เม.ย.2568 ปฏิบัติการไป 10 วัน 16 เที่ยวบิน ใช้พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ 361 นัด ปฏิบัติการในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ จ.อุดรธานี สกลนคร ชัยภูมิ หนองบัวลำภู สุโขทัย เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ลพบุรี มหาสารคาม ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ และเลย
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดีย @drraa_pr หรือขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วทุกภูมิภาค หรือโทรศัพท์หมายเลข 02-109-5100 ต่อ 410
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี