หนุ่มคนงานเรือโป๊ะ-ลงช่องหัวเรือ-ดำน้ำเพื่อปิดวาวล์-พลาดหลงทิศจมน้ำดับ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 10 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.ธนภูมิ ฉินหิรัญ พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ .สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจมน้ำภายในเรือโป๊ะชื่อ SP 46 ซึ่งกำลังร่องอยู่บริเวณปากอ่าวไทยเพื่อมาจอดเทียบท่าบริเวณบริษัทผลิตน้ำมันพืช จึงประสานเจ้าหน้าที่ประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ เดินทางไปรอตรวจสอบ

กระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น.เรือลำดังกล่าวได้มาจอดเทียบบริเวณจุดจอดเรือท่าเทียบเรือ ก่อนจะประสานขอเรือเร็วตรวจการณ์จากตำรวจน้ำเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงพบเป็นเรือโป๊ะบรรทุกเมล็ดถั่วเหลืองมาเต็มลำ ขนาดยาวเรือยาว 50 เมตร กว้างกว่า 10 เมตร บริเวณหัวเรือซึ่งเป็นช่องเก็บน้ำและช่องตั้งเครื่องปั่นไฟพบ นางสาว อังสุมาลี อายุ 24 ปี ชาว หมู่ที่ 4 ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของเรือและเพื่อนในเรือลำอื่นยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งผู้ที่ลงไปใต้ท้องเรือและจมหายนั้น คือ นายฉัตรชัย อายุ 20 ปี ชาว หมู่ที่ 4 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ประดาน้ำจึงนำอุปกรณ์เดินลงใต้ท้องเรือก่อนจะลงดำค้นหาโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างขึ้นมาได้ โดยสภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว มีบาดแผลแตกที่ศีรษะ หน้าผากบวมโน และบริเวณหางคิ้วขวามีบาดแผลแตกเล็กน้อย ก่อนนำร่างลงเรือเล็กขึ้นฝั่งเพื่อให้แพทย์พิสูจน์เบื้องต้น

จากการสอบถาม นางสาว อังสุมาลี เจ้าของเรือ ทราบว่า ตนพร้อมผู้ตายซึ่งเป็นสามีได้นำเรือขึ้นเมล็ดถั่วเหลืองมาเต็มลำออกจากเกาะสีชังเมื่อช่วง 17.00 น.วานนี้ เพื่อมาขี้นบริเวณทางเรือบริษัทผลิตน้ำมันพืชย่านพระสมุทรเจดีย์ ในระหว่างที่เรือร่องมาถึงบริเวณปากอ่าวไทยก่อนเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาเวลาประมาณตี 1 เศษ ไฟฟ้าในเรือเกิดดับ ผู้ตายได้เดินออกไปดูที่หัวเรือพร้อมเปิดช่องหัวเรือพบว่าระดับน้ำใต้ท้องเรือสูงขึ้นจนท่วมไดร์ปั่นไฟในเรือจนทำให้ไฟดับ ก่อนที่ผู้ตายจะเดินมาเรียกตนให้ไปช่วยดู

หลังจากนั้น ผู้ตายได้ลงไปในช่องหัวเรือเพื่อตรวจสอบและคิดว่าวาวล์ช่องระบายน้ำใต้ท้องเรืออาจเปิดออกจึงทำให้น้ำเข้า จึงดำน้ำลงไปเพื่อพยายามโยกวาวล์ปิดน้ำ โดยปกติทุกครั้งที่จะลงดำน้ำไปใต้ท้องเรือจะต้องใช้เชือกผูกที่เอวแต่ครั้งนี้ผู้ตายบอกว่าไม่ต้องใช้ กระทั่งดำน้ำลงไปแต่ตนผิดสังเกตว่าทำไมผู้ตายดำน้ำลงไปนาน จึงโทรศัพท์แจ้งคนขับเรือโยงและเพื่อนเรือโป๊ะที่มาด้วยกันใช้รีบมาช่วยเหลือพร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือแต่ไม่สามารถมาช่วยได้เนื่องจากเรือยังอยู่กลางทะเลจึงรอให้เรือเข้ามาเทียบท่าก่อนจึงมาช่วยเหลือได้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องต้น คาดว่า ผู้ตายน่าจะลงไปปิดวาวล์น้ำเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าตัวเรือ แต่ในขณะที่ดำน้ำเรือเกิดโคลงทำให้ร่างผู้เสียชีวิตไปกระแทกกับตัวเรือจนได้รับบาดเจ็บ หรือคาดว่าในขณะที่ดำน้ำอยู่น่าจะหลงทิศทางน้ำจึงขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำไม่ได้ทำให้จมน้ำดับ ก่อนบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ พร้อมประสานญาติให้เดินทางมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ///-026