'มท.1' เปิดศูนย์มอนิเตอร์7วันอันตรายรับช่วงสงกรานต์ 11-17เม.ย.นี้ ตั้งเป้าลดเจ็บ-ตาย ตั้งแต่ต้นทาง กำชับหน่วยเกี่ยวข้องเข้มดูแลปชช. ดื่มต้องไม่ขับ
10เม.ย.2568 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” กำหนดช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 11 - 17 เม.ย.2568 โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย คณะทำงาน รมว.มหาดไทย คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า การเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณถึงการตระหนักถึงช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน รัฐบาลมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จัดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ อำนวยการ ติดตามและสนับสนุนการปฏิบัติงาน ให้แก่ส่วนกลางและระดับพื้นที่ และเช่นเดียวกับทุกปีที่หน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งจะมีทั้งการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนเกิดความตื่นตัว เตรียมความพร้อมยานพาหนะ สุขภาพของผู้ขับขี่ มีการตรวจความปลอดภัยของพื้นผิวจราจร การป้องกันอุบัติเหตุในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายจะลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด โดยป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นทาง จึงได้ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนนำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 มาใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินการและให้นำข้อมูลสภาพปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ที่ผ่านมา อาทิ จุดที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จุดเสี่ยงจุดอันตรายในพื้นที่ รวมถึงพฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ มากำหนดมาตรการ แนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 นี้ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย มีความมั่นใจและมีความสุขในการสัญจรและเดินทางท่องเที่ยว นอกจากนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนได้มีการรณรงค์ด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการแพทย์ โดยให้มีเครือข่ายเพื่อส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว ให้มีโรงพยาบาลศูนย์ในเครือข่ายต่าง ๆ ที่สามารถประเมินอาการและส่งต่อให้ถึงมือของแพทย์อย่างทันท่วงที ตลอดจนเรื่องการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนตระหนักถึงภัยอันตรายของการดื่มสุรา โดยยึดหลัก "ดื่มไม่ขับ" และรณรงค์ให้ผู้ที่สัญจรและผู้ขับขี่ต้องไม่มีอาการมึนเมา ตลอดจนถึง "ง่วงไม่ขับ" โดยจัดให้มีจุดพักหรือการสลับสับเปลี่ยนผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในนามของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน และขอให้กำลังใจเป็นพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ต่อความเสียสละการทำงาน ความสุขของท่าน ในวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้รับความปลอดภัยในการเดินทางกลับคืนสู่ภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ของปีนี้
"ขอย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่คอยดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนได้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองด้วยในบริเวณจุดตั้งด่าน ขอให้ตื่นตระหนักตื่นรู้ มีการจัดเวรและมาตรการความปลอดภัยในที่ตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมานั้นเคยมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ให้ถือเป็นบทเรียนและต้องถอดบทเรียน ว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ทำงานเต็มที่ดูแลประชาชน และตระหนักว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และอาจส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนได้ ดังนั้นขอกำชับว่าไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด โดยต้องเพิ่มความระมัดระวังและความเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่" นายอนุทิน กล่าว
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี