เกษตรกรวอนรัฐอย่ายัดเยียดคนไทยกิน‘หมูมะกัน’ปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง ยกทัพขอ‘รมว.คลัง-หอการค้าฯ’ช่วยป้องอาชีพก่อนล่มสลาย
10 เมษายน 2568 วันนี้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูกว่า 1,000 คน ยกทัพบุกกระทรวงการคลัง-หอการค้าไทยฯ ยื่นหนังสือขอความเห็นใจ พร้อมนำหัวหมู 37 หัว บนบานกู้วิกฤต หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากไทย 37% เพื่อลดการขาดดุลการค้า และรัฐบาลไทยเตรียมเจรจาเปิดทางนำเข้าเครื่องในหมูสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู และห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทให้ล่มสลาย รวมถึงกระทบสุขภาพคนไทย เสี่ยงต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ พร้อมกันนี้ได้เข้าพบ รมว.กษตรฯ ขอบคุณที่เคียงข้างเกษตรกรไทย
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า จากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ระบุว่าอนุมัติให้มีการนำเข้าเครื่องในสุกรจากสหรัฐฯนั้น สร้างความกังวลใจแก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องในหมูเป็นแหล่งสะลมสารเร่งเนื้อแดงที่สหรัฐฯใช้กันอย่างแพร่หลาย หากนำเข้าเครื่องในมาไม่ว่าจะใช้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงหรืออาหารมนุษย์ ก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงและต่อประชาชนคนไทยทั้งสิ้น เนื่องจากมีผลต่อระบบประสาทและหัวใจ ขณะที่คนไทยกินเครื่องในหมูในปริมาณมากเทียบเท่าเนื้อหมู จึงไม่เป็นผลดีอย่างยิ่งต่อสุขภาพคนไทย
ทั้งนี้ การนำเข้าเครื่องในหมูจากสหรัฐฯ ยังส่งผลกระทบมหาศาลต่อเกษตรกรและอีกหลายภาคส่วน เป็นเหตุผลที่กลุ่มเกษตรกรรวมตัวมาเพื่อขอความเห็นใจจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาแก้ปัญหาดุลการค้าสหรัฐฯ ให้ช่วยปกป้องอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูของไทย ให้สามารถยืนหยัดผลิตเนื้อหมูให้คนไทยบริโภคได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน รักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศต่อไป ทั้งนี้ อาชีพผู้เลี้ยงหมูเป็นอาชีพดั้งเดิมอยู่คู่ประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน แม้จะล้มลุกคลุกคลานเผชิญปัญหามากมายมาโดยตลอด แต่กลุ่มเกษตรกรและภาครัฐที่เกี่ยวข้องก็มุ่งมั่นตั้งใจยกระดับ พัฒนา ปรับปรุง เพื่อผลิตเนื้อหมูให้คนไทยบริโภคด้วยคุณภาพหมูที่สะอาด ปลอดภัย เป็นความภูมิใจของคนเลี้ยงหมูทุกคน
การยื่นหนังสือในวันนี้มีข้อมูลให้ คณะเจรจาได้นำไปพิจารณา คือ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์สนับสนุนการนำเข้าพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่ขาดแคลน หรือผลิตได้ไม่เพียงพอในบ้านเรา เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกากถั่วเหลือง ซึ่งจะสามารถเพิ่มดุลการค้าให้สหรัฐฯได้ถึงปีละ 84,000 ล้านบาท น่าจะเป็นส่วนสำคัญในการเจรจาครั้งนี้ได้ไม่น้อย ทั้งนี้ จะเป็นการนำเข้าในส่วนที่ประเทศไทยมีไม่เพียงพอ ซึ่งจะไม่กระทบเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ในประเทศไทย นับว่าคุ้มค่ากว่าการนำอุตสาหกรรมสุกรและห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท ไปแลกอย่างชัดเจน
ปัจจุบันปริมาณผลผลิตเนื้อหมูของไทย อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับความต้องการบริโภคของประชาชน หากปล่อยให้มีเนื้อหมูสหรัฐฯ เข้ามาปริมาณซัพพลายจะเกินกว่าดีมานด์ ส่งผลกระทบไปตลอดห่วงโซ่การผลิต ดังเช่นสถานการณ์หมูเถื่อนที่เกิดขึ้นอย่างหนักในช่วงปี 2564 ที่ทำให้ผู้เลี้ยงต้องสูญเสียอาชีพไปมากมาย
สินค้าทั้งชิ้นส่วนและเครื่องในสุกรของสหรัฐ ผลิตจากประเทศที่มีกฎหมายไม่ห้ามการใช้สารเร่งเนื้อแดง ในขณะที่ประเทศไทยมีกฎหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ห้ามใช้ในการเลี้ยงและกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข ห้ามปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์สุกรทุกชนิดแม้จะมีการอ้างว่ามีการเลี้ยงโดยไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดงในสหรัฐ ในขณะที่กฎหมายของสหรัฐไม่ห้ามการใช้ จะเป็นปัญหาเช่นเดียวกับกลุ่มประเทศยุโรปไม่รับสินค้าไก่เนื้อจากประเทศที่ใช้ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม ในขณะที่ประเทศไทยมีการส่งไก่เนื้อไปยังยุโรปและออกกฎหมายในลักษณะที่ห้ามใช้สารต้องห้ามในลักษณะเดียวกับกลุ่มยุโรปเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานเดียวกัน หากผู้บริโภครับประทานเนื้อสัตว์หรือเครื่องในที่มีสารตกค้างดังกล่าว จะมีผล เป็นความเสี่ยงต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ และแม้จะนำเข้ามาเพื่อผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงกลุ่มสุนัขและแมว ก็ไม่เป็นผลดีกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง และเกิดข้อจำกัดในการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปตามมา
ในวันเดียวกัน กลุ่มเกษตรกรยังเดินทางเข้ายื่นหนังสือที่ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ปกป้องเกษตรกรเช่นกัน หลังประธานสภาหอการค้าฯ เคยเสนอแนวคิดให้นำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐ
จากนั้นเดินทางเข้าพบ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอบคุณที่แสดงจุดยืนเคียงข้างเกษตรกร และประกาศจะไม่ยอมเอาผลประโยชน์ของภาคเกษตรไปแลกกับข้อตกลงทางการค้า ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจแก่กลุ่มเกษตรกรเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงช่วยปกป้องอาชีพเกษตรกร แต่รัฐมนตรีเกษตรฯ ยังช่วยปกป้องสุขอนามัยที่ดีของประชาชนชาวไทยด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี