เจ้าหน้าที่ยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายตึกสตง.ถล่ม พบ 2 ร่าง รวมยอดผู้เสียชีวิต 37 ศพ ด้านผู้ว่าฯกทม.เผยไม่พบสัญญาณชีพจุดพบแสงไฟ คาดเป็นแสงจากกระจกสะท้อน เร่งขุดโซน E ส่วนภาพรวมรื้อซากตึกได้กว่า 40%ขณะที่แผ่นดินไหวเมียนมา5.9แมกนิจูด รู้สึกสั่นไหวถึงแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย
เมื่อวันที่ 13 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ เขตจตุจักร กทม.ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากการติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ว่าทางกรุงเทพมหานคร ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยเข้าสู่วันที่ 17 ของการค้นหา ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหลายหน่วยงาน อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.กองทัพบก กองทัพอากาศ ตำรวจพลร่ม รวมถึงอาสาสมัครจากมูลนิธิต่างๆ ต่างกระจายกำลังทำลายสิ่งกีดขวางในซากตึกทุกโซนพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณโซน B และ โซน C ด้วยเครื่องจักรกลหนัก สลับกับทีมค้นหาเดินเท้า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จนถึงช่วงเช้าวันเดียวกัน ก็ยังไม่มีสัญญาณผู้รอดชีวิตเพิ่ม โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงชิ้นส่วนอวัยวะผู้เสียชีวิต อาทิ ท่อนแขน ท่อนขา ชิ้นส่วนกระดูก ฯลฯ กระจัดกระจายอยู่หลายจุด ในบริเวณพื้นที่เชื่อมต่อโซน A, B และ C ของซากตึก
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาประมาณ 23.01น.คืนวันที่ 12 เมษายนต่อเนื่องจนถึงวันที่ 13 เมษายน ที่บริเวณโซน B เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบเพศได้อีก1 ร่าง และร่างผู้เสียชีวิตเพศชาย อีก 1 ร่าง ตามลำดับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันบุคคลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ขณะที่ช่วงเช้าบรรยากาศบริเวณจุดเกิดเหตุร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อรวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางกรมโยธาธิการและผังเมือง และพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้เข้าเก็บวัตถุพยานหลักฐาน อาทิ เหล็ก และปูนซีเมนต์ เพื่อนำไปตรวจสอบ
ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวว่า ได้เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งทางดีเอสไอยังคงต้องเข้าพื้นที่หน้างานอย่างต่อเนื่อง โดยการทำงานของดีเอสไอ แบ่งออกเป็น2 ส่วนคือส่วนที่เก็บหลักฐาน และส่วนสอบสวน โดยงานสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการนัดหมายผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนคดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือนอมินี ให้เข้ามาให้ข้อมูลในวันที่ 18 เมษายน-15 พฤษภาคมนี้ โดยจะมีบริษัทที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย บริษัท ไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทที่ร่วมประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง.เบื้องต้นจากเส้นทางการเงินพบว่า ปลายทางมีการโอนไปถึง 2 บุคคลชาวจีน ซึ่งขณะนี้ทางดีเอสไอมีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
ด้าน น.ส.ภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กล่าวถึงปฏิบัติการการค้นหาว่าก่อนหน้านี้ที่พบแสงไฟกระพริบตรงบริเวณโซน B ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจาะโพรงเพื่อเข้าค้นหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามตะโกนเรียกหรือส่งส่งสัญญาณ แต่ก็ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่หมดหวัง ยังเร่งปฏิบัติการต่อไป ส่วนการทำงานด้านในไซต์งานนั้น ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่าขาดเหลืออะไร แต่ทางสำนักงานเขตจตุจักร ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง โดยปฏิบัติการมีความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากได้เครื่องจักรใหญ่มาดำเนินการค้นหา แต่อุปสรรคหน้างานยังคงเป็นเรื่องของการขุดเจาะ เนื่องจากมีแผ่นปูนขนาดใหญ่จำนวนมาก จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการยกแผ่นปูนออกและจะต้องมีการปรับแผนการปฏิบัติงานอยู่ตลอด โดยจะมีการประชุมร่วมกันในทุกหน่วยงาน
ส่วนบริเวณด้านหน้าจุดเกิดเหตุมีหลายหน่วยงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่แม้ว่าจะเป็นวันหยุดราชการ อาทิ ทหาร, ตำรวจ, สำนักงานเขตจตุจักร รวมถึงกู้ภัยจากหลายหน่วยงาน โดยเครื่องจักรหนัก และทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่องทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าอาคารถล่ม ณ เวลา 10.00น.วันที่ 13 เมษายน 2568 มีผู้ประสบเหตุ 103ราย ผู้เสียชีวิต 37ราย ผู้บาดเจ็บ 9รายและยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหาอีก57 ราย
ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม.เดินทางติดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม โดยนายชัชชาติ เปิดเผยว่า การค้นหายังคงเดินหน้าต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามเปิดพื้นที่ถึงจุดที่มีการกล่าวอ้างว่าพบแสงไฟ ซึ่งขณะนี้ขุดไปจนถึงบริเวณใกล้เคียงจุดดังกล่าวประมาณ 3 เมตรแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำ K9 และเครื่องแสกนเข้าไปตรวจ แต่ไม่พบสัญญาณหรือสิ่งของอะไร คาดว่าอาจจะเป็นกระจกที่แตกและสะท้อนแสงออกมา และแม้ว่าจุดนี้จะไม่พบร่างผู้สูญหาย แต่เราจะไม่ละเลยความหวัง แม้ความหวังจะเล็กแค่ไหน จะพยายามเต็มที่
นายชัชชาติ เปิดเผยด้วยว่า คืนที่ผ่านมาระหว่างที่จะเข้าไปจุดดังกล่าวได้พบร่างผู้สูญหายเพิ่มอีก 2 ร่าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 37 ราย ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่มีผู้สูญหายอยู่ที่โซน B และ C เนื่องจาก2 จุดนี้อยู่ใกล้บันไดหนีไฟ และทางเชื่อมอาคารจอดรถ โดยขณะนี้การรื้อการก่อสร้างดำเนินการไปแล้วกว่า 40%สำหรับแผนปฏิบัติการหลังจากนี้จะเน้นรื้อโซนEที่อยู่ด้านบนก่อน เพราะอุปสรรคคือเหล็กอัดแรง ที่มีความเหนียวกว่าปกติ 5เท่า โดยความสูงของซากอาคารตอนนี้ลดลงมาประมาณ 3 เมตร
วันเดียวกัน กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 5.9 แมกนิจูด ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 271กิโลเมตร เบื้องต้นได้รับรายงานความรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่ และเชียงราย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ข้อมูลรับแจ้งการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากประชาชน แจ้งเหตุรู้สึกสั่นไหว โดยที่ ต.สุเทพ อ.เมืองจ.เชียงใหม่ นิมมานเชียงใหม่ คอนโดมิเนียม ชั้น 7 โคมไฟแกว่งเล็กน้อย รู้สึกสั่นๆ ตอนนอนบนที่นอน ขณะที่ ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย หอพักหญิงเขมินทรา หอพัก, อพาร์ตเมนต์, แฟลต, แมนชั่น ชั้น 2 สั่นเบาไม่แรงมาก เตียงสั่น พัดลมที่ไม่ได้เปิดสั่น
อีกด้านหนึ่ง นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ และประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวกับครอบครัว แต่กระทรวงแรงงานยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลญาติผู้เสียชีวิต ลูกจ้าง และนายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ผ่านศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ห้าง JJ Mall และสำนักงานประกันสังคมยังจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ ที่แผนกนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อดูแลให้บริการกับญาติผู้เสียชีวิตทุกวัน ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 12 เมษายน 2568 สำนักงานประกันสังคมเริ่มจ่ายเงินเยียวยาให้กับทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยยอดรวมผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ 41คน รวมทั้งสิ้น 25,115,881บาทและเฉพาะผู้เสียชีวิตที่ตึก สตง.34คน รวมทั้งสิ้น 20,428,044บาท ประกอบด้วย ค่าทำศพ เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต และเงินชราภาพ
นายภูมิพัฒน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานได้สำรวจและรวบรวมข้อมูลสถานประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างกรณีที่นายจ้างต้องปิดกิจการหรือต้องหยุดกิจการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยในการทำงานได้ช่วยตรวจสอบระบบไฟฟ้า เครื่องจักร และปั้นจั่น ให้กับสถานประกอบการ พร้อมทั้งได้จัดเตรียมวงเงินกู้จากกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานไว้ดูแลช่วยเหลือนายจ้างลูกจ้างโดยไม่จำกัดวงเงิน อัตราดอกเบี้ยเพียง 2% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกจ้างในสถานประกอบการที่มีสหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถขอกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานได้ในวงเงิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ5ปีเช่นเดียวกัน โดยมุ่งหวังบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและฟื้นฟูกิจการได้โดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี