เศร้า3วันอันตรายสงกรานต์

ตาย100-เจ็บ752

‘กทม.-พัทลุง’แชมป์สูญเสีย

คุมประพฤติตีนผีขี้เมานับพัน

ร่วมสาดน้ำชุ่มฉ่ำทั่วประเทศ

นักท่องเที่ยวล้นถนนสีลม

วอล์กกิ้งสตรีทพัทยาลุยโต้รุ่ง

เศร้า!“สงกรานต์ดุ 3 วันผ่านดับสังเวยบนท้องถนนแล้ว 100 ศพ เกิดอุบัติเหตุ 756 ครั้ง บาดเจ็บระนาว 752 คน “กทม.-พัทลุง-ลำปาง” แชมป์สูญเสียสะสม กรมคุมประพฤติ ล็อกคอตีนผีเมาแล้วขับคุมประพฤติติดกำไลอีเอ็ม 1,579 คดี ขณะที่ทั่วไทยเล่นน้ำสงกรานต์กระหึ่ม วอล์กกิ้งสตรีท-เมืองพัทยา แน่น

เมื่อวันที่14เม.ย.2568 เมื่อเวลา10.30น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดแถลงข่าวข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 13เม.ย.68 ซึ่งเป็นวันที่3ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้

เกิดอุบัติเหตุ 296 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 299 คน ผู้เสียชีวิต 39 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 44.26 ดื่มแล้วขับ 29.05 และตัดหน้ากระชั้นชิด 17.91 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.85 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81.42 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.84 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.09 ถนนในเมือง (เทศบาล) ร้อยละ 14.19

ผ่าน3วันดับแล้ว100ศพ

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 20.61 เวลา 15.01- 18.00 น. ร้อยละ 16.89 และเวลา 12.01 – 15.00 น. ร้อยละ 16.55 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 21.89 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,754 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,017 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (19 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี สระแก้ว และเชียงราย (จังหวัดละ 3 ราย)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (11เม.ย. – 13เม.ย.68) เกิดอุบัติเหตุรวม 756 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 752 คน ผู้เสียชีวิต รวม 100 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 30 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (28 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (31 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (10 ราย)

ขอมีน้ำใจเพื่อนร่วมเดินทาง

ด้าน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานการประชุมอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 กล่าวว่า เนื่องจากการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พบว่านอกเหนือไปจากดื่มแล้วขับแล้ว ส่วนหนึ่งอุบัติเหตุทางถนนยังเกิดจากการง่วงหลับในที่มาจากการทานยาบางชนิดที่มีฤทธิ์ง่วงซึม

จึงขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ข้อมูลการใช้ยาว่ามียาชนิดใดบ้างที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมและมีผลต่อการขับขี่ เช่น กลุ่มยาแก้แพ้ แก้คัน ลดน้ำมูก กลุ่มยาแก้ปวดอย่างแรง ยาคลายกล้ามเนื้อ ยกแก้ไอ ยากันชัก ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท ยาต้านอาการท้องเสีย และหากประชาชนทานยาเหล่านี้ ไม่ควรขับรถโดยเด็ดขาด โดยขอให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลนี้ผ่านทุกช่องทางของจังหวัด ทั้งเสียงตามสาย ป้ายรณรงค์ และสื่อสังคมออนไลน์

ปฎิบัติตามกฎจราจรเคร่งครัด

ขณะที่นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 กล่าวว่า วันนี้(14เม.ย.) เป็นวันครอบครัว ประชาชนจึงมักเดินทางไปรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล บางส่วนอาจเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่าง ๆ เพื่อให้ทุกการเดินทางในวันนี้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัย ไม่มีความสูญเสีย

สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อเฉลิมฉลองวันครอบครัวอย่างมีความสุข ขอฝากให้ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มแล้วขับ หากต้องการเปลี่ยนเลน ขอให้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อให้สัญญาณกับยานพาหนะโดยรอบ รอจนได้ระยะที่ปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเลน ไม่ตัดหน้ากระชั้นชิด รวมถึงสวมใส่อุปกรณ์นิรภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง

เผยตีนผีเมาแล้วขับเพียบ

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงมาตรการคุมเข้มในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ว่า เข้าสู่วันที่ 3 ของการดำเนินมาตรการควบคุมเข้มข้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (13 เมษายน 2568) พบสถิติคดีที่ศาลมีคำสั่งคุมความประพฤติ 224 คดี แบ่งเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 219 คดี ร้อยละ 97.77 และคดีขับเสพ 5 คดี ร้อยละ 2.23 ขณะที่ยอดคดีสะสมในช่วง 3 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ อยู่ที่ 1,579 คดี และติดอุปกรณ์ EM ยังคงเดิมที่ 15 ราย แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา 1,472 คดี ร้อยละ 93.22 ติด EM 4 ราย ขับรถประมาท 3 คดี ร้อยละ 0.19 ขับเสพ 104 คดี ร้อยละ 6.59 ติด EM 11 ราย

จังหวัดที่มีคดีเมาขับสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 คดี รองลงมาคือ สมุทรปราการ 123 คดี และกรุงเทพมหานคร 118 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 3 ของปี 2567 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 242 คดี และปี 2568 จำนวน 219 คดี ลดลง 23 คดี สงกรานต์ชุ่มฉ่ำชั่วไทย

ด้านบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ยังคึกคักต่อเนื่อง ที่คลองส่งน้ำชลประทาน เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ถนนเลียบคลองยาวกว่า 1 กิโลเมตร คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาพร้อมกับครอบครัว วัยรุ่น หนุ่มสาว ต่างพากันเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน โดยมีการจัดโซนนิ่งให้เล่นอย่างปลอดภัย ด้านพ่อค้าแม่ค้าก็นำอาหารและสินค้ามาจำหน่าย รวมถึงบริการเติมน้ำใส่ถัง สร้างรายได้สะพัดให้ชุมชนเป็นอย่างดี

ส่วนที่ ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จัดงานประเพณีสงกรานต์รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุทั้ง 19 หมู่บ้าน เริ่มด้วยการแสดงของนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ อบต.นาฝาย กับลีลารำวงย้อนยุคสุดมัน อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านมหาสนุก เช่น แข่งส่งแป้งข้ามหัว ตีกอล์ฟบก และแข่งขันปิดตาแต่งหน้า เรียกเสียงหัวเราะ สร้างความสนุกสนานทั้งผู้เล่นและกองเชียร์

ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์วันที่ 2 ในพื้นที่อำเภอเมือง เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเฉพาะที่สวนสัตว์อุบลราชธานี ซึ่งนอกจากจะได้เดินเที่ยวชมสัตว์แล้ว ยังมีปาร์ตี้โฟม และสามารถใช้บัตรผ่านประตูเล่นเกมชิงรางวัล ขณะที่ถนนสายหลัก เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยเล่นสาดน้ำต่อเนื่อง

ขอพรหลวงพ่อปากแดง

ที่วัดหลวงพ่อปากแดง ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดหลวงพ่อปากแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก พบนักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดนครนายก กันเป็นจำนวนมาก พร้อมเข้ามากราบไหว้บูชาองค์หลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครนายกและนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดให้ความเคารพนับถือ ได้เข้ามากราบไหว้บูชา ขอพร ขอโชคลาภ ธุรกิจการงาน แก้บน พร้อมลอดท้องช้าง กราบไหว้องค์ท้าวเวสสุวรรณองค์สีทอง ทำบุญปล่อยปลา และไหว้เรือโบราณเก่าแก่ พร้อมส่องเลขอ่างน้ำมนต์ที่เจ้าหน้าที่วัดหลวงพ่อปากแดงได้นำมาว่างใส่พานไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ส่องเลขเด็ดใกล้วันหวยออก มีเลข 3 7 4 6 9 เป็นต้น

วัดพราหมณีเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นวัดที่มีแต่ความร่มรื่นมีหลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ที่มีพุทธศาสนิกชน ให้ความเคารพบูชา หลั่งไหลมากราบไหว้ ขอพรกัน โดยนำเอากล้วยน้ำว้า หมากพลูพวงมาลัย และน้ำแดง มาถวายองค์หลวงพ่อปากแดง ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าภายในอุโบสถของวัดหลวงพ่อปากแดง พระราชพรหมคุณ (หลวงพ่อตึ๋ง วาจาสิทธิ์ ) เจ้าคณะจังหวัดนครนายก เจ้าอาวาสฯ ได้กล่าวว่าขอให้ญาติโยมทุกคนประสบแต่ความสำเร็จคิดอะไรขอให้สมความปรารถนา ควรหมั่นสร้างแต่ความดีกันเอาไว้สักวันหนึ่งความดีก็จะสนองตัวเราเอง

พัทยาต่างชาติแน่น

เมื่อค่ำของคืนวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ ถนนวอล์กกิ้งสตรีท เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่พากันถือปืนฉีดน้ำหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันเล่นน้ำ เนื่องด้วยเข้าเทศกาลสงกรานต์ 2568 ตามสถานบันเทิงและถนนคนเดินวอล์กกิ้งสตรีท จะมีนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำกันตลอดทั้งคืน ทำให้เมืองพัทยาดูครึกครื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สำหรับวันไหลของเมืองพัทยาจะแบ่งเป็น 2 โซน ในวันที่ 18 เมษายน 2568 จะเป็นวันไหลนาเกลือ ส่วนวันที่ 19 เมษายน จะเป็นวันไหลของเมืองพัทยา ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข่ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาสงกรานต์นี้ เป็นจำนวนมาก

โคราชจัดงานรำลึกน้าชาติ

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนา ได้กล่าวถึง วันครอบครัวคือวันที่ 14 เมษายน ทำให้นึกถึง รัฐบาลของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2532 ให้วันที่ 14 เมษายนเป็นวันครอบครัว เป็นวันหยุด ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว ให้ทุกครอบครัวได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน สร้างความรักความอบอุ่น ทำบุญร่วมกันเพื่อความเป็นสิริมงคล เกิดพลังของครอบครัว และยังแสดงออกถึงความกตัญญู ที่มีต่อผู้หลักผู้ใหญ่ในแต่ละครอบครัวอีกด้วย

ขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านได้ใช้วันหยุด วันครอบครัว เป็นวันสร้างพลังของครอบครัวให้กับประเทศชาติ เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวไทยรวมพลังแห่งความรักของแต่ละครอบครัว เพื่อช่วยกันฟันฝ่าวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะ สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ผลกระทบจากแผ่นดินไหว และสงครามการค้า ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จากการขึ้นภาษีสินค้าต่างๆ ที่จะนำเข้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบโดยตรงอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาส่งคณะผู้แทนไปเจรจากับสหรัฐในขณะนี้

นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันครอบครัวในปีนี้ จึงถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของคนไทย ที่เราจะต้องใช้โอกาสของวันครอบครัวให้มีความสำคัญและมีคุณค่ามากที่สุด ในการสร้างพลังแห่งครอบครัว พลังแห่งความรักและความสามัคคีของคนไทย จะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถฝ่าวิกฤตต่างๆของบ้านเมืองในขณะนี้ไปได้ และทุกครอบครัวได้ใช้โอกาสวันสงกรานต์และวันครอบครัวเป็นวันหยุดยาว ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านเดินทางกลับด้วยความปลอดภัย

ตรังตักบาตรน้ำหอม

ที่วัดเขาแก้ว ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง พระครูศรีรัตนาภิวุฒิ เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว พร้อมด้วยชาวอำเภอสิเกา จ.ตรัง กว่า 1,000 คน ร่วมสืบสานประเพณีตักบาตรน้ำหอม เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในไทย โดยจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2548 รวมเวลา 20 ปี ซึ่งประเพณีตักบาตรน้ำหอม เป็นการเอาน้ำมาผสมกับน้ำหอม น้ำปรุงและดอกไม้ต่าง ๆ มาใส่บาตรพระสงฆ์สามเณร ซึ่งคนที่ไม่ได้เตรียมน้ำหอมมาจากบ้าน ทางวัดก็มีน้ำหอมใส่ถังเตรียมไว้ให้

ก่อนที่พระครูศรีรัตนาภิวุฒิ จะนำพระสงฆ์สามเณรจำนวน 25 รูป ออกรับบิณฑบาตน้ำหอมจากชาวบ้านที่มายืนรออยู่รอบพระอุโบสถ สร้างบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสามเณรที่บรรพชาภาคฤดูร้อนปีนี้จำนวน 10 รูป ได้มีโอกาสร่วมบิณฑบาตน้ำหอมเป็นปีแรก ทำให้ชาวบ้านเกิดความเอ็นดูเป็นอย่างมาก เนื่องจากบาตรเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะน้ำใกล้เต็มบาตร ชาวบ้านจึงช่วยตักรดน้ำให้สามเณร และให้สามเณรตักรดน้ำให้กับชาวบ้านด้วย เพื่อเป็นการช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ให้สามารถเดินต่อไปได้จนถึงปลายแถว และบรรเทาความร้อนให้กับสามเณรได้อีกทางหนึ่งด้วย

สืบสานประเพณีเก่าแก่

สำหรับการตักบาตรน้ำหอมมีความหมายแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1.น้ำ ประกอบด้วย น้ำใจ น้ำคำ (คำพูด) น้ำพักน้ำแรง น้ำเงิน (เงินทอง) และน้ำหอม 2.หอม คือกลิ่นที่ทุกคนปรารถนา การตักบาตรน้ำหอมจึงเปรียบเสมือนการมอบสิ่งใดให้กับผู้อื่น ผู้ให้ก็จะได้รับสิ่งนั้นกลับคืน โดยหลังเสร็จพิธีตักบาตรน้ำหอม พระสงฆ์สามเณรจากเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะเข้ารดน้ำขอพรจากเจ้าอาวาสวัดเขาแก้วพร้อมกับชาวบ้าน งานนี้มีสามเณรและชาวบ้านบางคน ถูกเจ้าอาวาสให้พรแบบเต็ม ๆ จนมึนงงกันไปเลยก็มี

ด้านพระครูศรีรัตนาภิวุฒิ เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า “ประเพณีของที่นี่ที่ตำบลนาเมืองเพชร เรามีกิจกรรมที่เรียกว่า ตักบาตรน้ำหอมจัดทุกปี เริ่มมาตั้งแต่ตนเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี 2548 จนถึงปีนี้ปี 2568 รวม 20 ปี ชาวบ้านทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมที่นี่ก็ยังมีการตักบาตรน้ำหอม เพื่อเป็นกุศโลบายให้ทุกคนได้รู้ว่า น้ำหอมเป็นน้ำที่มีคุณค่าที่ 1 เกิดมาจากน้ำจิตน้ำใจของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นของพระคุณเจ้า ของญาติโยม อุบาสก อุบาสิกา ในส่วนของน้ำคำก็คือคำพูดที่ทุกคนในชุมชนต้องกลั่นกรองคำพูด ด้วยปิยวาจา วาจาที่เป็นบริสุทธิ์เป็นต้น ส่วนที่ 3 คือน้ำพักน้ำแรง คือแรงทุกอย่างทั้งแรงกาย แรงใจที่ชาวบ้านทุกคนในชุมชนได้ร่วมกันดูแลวัด ก็เลยรวมกันมาเป็นการตักบาตรน้ำหอมในครั้งนี้