วันที่ 17 เมษายน 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์รถยนต์ BMW ป้ายแดง ขับปาดหน้ากับรถกระบะ ก่อนรถกระบะเสียหลักพุ่งชนขอบทางบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงทางออกรังสิต-นครนายก ส่งผลให้คนขับกระบะเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ขณะที่ผู้โดยสารหญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยผู้ขับ BMW มีรายงานว่าเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) และมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง
ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนี้ โดยกล่าวว่า ได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลแล้ว และเห็นว่าพฤติกรรมของผู้ขับรถ BMW เป็นสิ่งที่ “น่ารังเกียจ” และไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคม “ผมเสียใจที่ยังมีคนขับรถแบบนี้บนถนน ถ้ารถคันที่เสียหายมีเด็กเล็กอยู่ จะเกิดอะไรขึ้น? พฤติกรรมเช่นนี้อยู่ในสังคมยาก” ผบ.ตร. กล่าว
พร้อมย้ำว่า ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตนเคยฝากประชาชนให้มีสติและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในการใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้ ต้องดำเนินคดีทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงผู้กระทำผิดว่า ไม่เพียงแต่ทำผิดกฎหมาย แต่ยังแสดงออกถึงความไร้จิตสำนึก โดยเฉพาะการอวดอ้างความสัมพันธ์กับนักการเมืองชื่อดังในพื้นที่ เพื่อหวังให้ตนเองดูมีอิทธิพล ผู้กระทำผิดยังไม่สำนึกผิด ยังแอบอ้างโอ้อวดไปทั่ว แสดงให้เห็นว่าไม่มีวุฒิภาวะและจิตสำนึกที่ดีเลย ถ้าเป็นลูกชายผมเอง ทำผิดผมก็ไม่ช่วย ทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมาย ไม่ใช่ทำตัวใหญ่กร่างอวดอ้างไปเรื่อย พร้อมย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นธรรมและเท่าเทียม ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่มีชื่อเสียงหรือมีสายสัมพันธ์ทางการเมือง
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปวิดีโอและคำให้การพยาน เพื่อเตรียมดำเนินคดีต่อผู้ขับ BMW รายนี้ในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง โดยสังคมกำลังจับตามองว่า คดีนี้จะเป็นบททดสอบความยุติธรรมและความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมไทยอีกครั้ง
เนื่องจากเหตุเกิดบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เบื้องต้นคดีนี้เป็นคดีจราจรที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 ตำรวจทางหลวง ต้องรับผิดชอบสอบสวนก่อน และผู้เสียหายสามารถที่จะไปแจ้งความดำเนินอาญากับตำรวจพื้นที่คือ สภ.ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้ อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำไปทางตำรวจทางหลวงและตำรวจพื้นที่ปทุมธานีแล้วว่า การดำเนินคดีต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา จะไม่มีการช่วยเหลือใครเด็ดขาด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สอบปากคำร่วม 3 ชม. 'ลุง-ป้า'คู่กรณีเก๋งป้ายแดง ตำรวจเผยยังไม่ได้แจ้งข้อหาใคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี