อัปเดตตึกสตง.ถล่ม! เสียชีวิต 42 ราย ยังค้นหา 50 ราย ขณะที่ซากตึกถล่มลดเหลือ 13 เมตร เร่งตัดเหล็ก-ขนซาก เพิ่มรถลำเลียง 22 คัน เดินหน้าต่อเนื่อง หวังจบภารกิจใน เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ความคืบหน้ากรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ เขตจตุจักร กทม.ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากการติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ว่า ล่าสุด ณ เวลา 16.00 น.ยอดผู้ประเหตุจากอาคาร สตง.จำนวน 103 ราย เสียชีวิต 42 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 2 ราย บาดเจ็บ 9 ราย คงเหลืออยู่ระหว่างการติดตามอีก 50 ราย
ขณะที่ นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงถึงความคืบหน้าสถานการณ์อาคาร สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ว่า ตั้งแต่เมื่อวาน (16 เม.ย.68) จนถึงวันนี้ หัวใจหลักของการทำงานคือการลดความสูงของยอดซากอาคาร ซึ่งเมื่อวานนี้ ยอดซากอาคารมีความสูงประมาณ 14 เมตร และเมื่อเช้านี้เหลือประมาณ 13 เมตร จากของเดิมสูงกว่า 26 เมตร ซึ่งความสูงที่ลดลงทำให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยได้มีการปรับยุทธวิธีด้วยการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทีมอาสา ทหาร และ กทม.เร่งดำเนินการตัดเหล็ก โดยการใช้แก๊สซึ่งสามารถทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ไปได้ในหลายจุดพร้อมกัน
นอกจากนี้ มีการเพิ่มจำนวนรถในการขนเศษปูนและเหล็กจากซากอาคาร จากเดิม 14 คัน โดยเพิ่มเติมอีก 8 คัน ทำให้เมื่อวานนี้สามารถลำเลียงออกไปได้กว่า 170 เที่ยว จากเดิมได้วันละประมาณ 100 เที่ยว ซึ่งการตัดเหล็กได้รวดเร็วและขนซากออกไปจากพื้นที่ได้รวดเร็ว ทำให้หน้างานสามารถรุดหน้างานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งลำดับต่อไปต้องเตรียมสถานที่ในการทิ้งซากอาคารไปพักไว้ ให้รองรับกับจำนวนเที่ยวรถบรรทุกและปริมาณเศษปูนและเหล็กที่ขนไปให้สอดคล้องกันด้วย
ในส่วนของมาตรการเยียวยา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายโยธาของสำนักงานเขต ได้ขอนัดวันในการเข้าไปดูสถานที่ เพื่อประเมินความเสียหายของโครงสร้างอาคารและบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว แต่ติดปัญหาและอุปสรรคคือ เจ้าของบ้านไม่อยู่ตามนัดหมายเนื่องจากวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ จึงขอความร่วมมือหากเจ้าของบ้านกลับมาแล้วให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนัดหมายเข้าดูสถานที่ต่อไป
ด้าน ผอ.สปภ.กล่าวเสริมว่า เดิมสาเหตุที่ทำให้หน้างานล่าช้า คือ โครงเหล็กอาคารที่เป็นอุปสรรค แต่ปัจจุบันสามารถตัดโครงเหล็กได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากมีทีมกระจายกำลังกันใช้แก๊สตัดเหล็กในหลายๆ จุดพร้อมกัน แต่อุปสรรคในขณะนี้คือ ต้องเร่งระบายซากเหล็กและปูนออกจากพื้นที่ให้รวดเร็วให้ได้ เพื่อรองรับซากอาคารชิ้นใหม่ที่เติมเข้ามาตลอดเวลาจากการทำงานที่รุดหน้ารวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยภาพรวมความคืบหน้ายังเป็นไปตามกำหนดเดิมคือต้องเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี