ตำรวจไซเบอร์รวบครูหื่น อนาจารลูกศิษย์ชายวัย 15 พร้อมอัดคลิป และ รวบ รปภ.เฒ่า อนาจารเด็กวัย 13 อัดคลิปแชร์
วัoที่ 17 เมษายน 2568 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 และ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์รวบครูหื่น อนาจารย์ลูกศิษย์ชายวัย 15 พร้อมอัดคลิป และ รวบ รปภ.เฒ่า อนาจารเด็กวัย 13 อัดคลิปแชร์
ปฏิบัติการที่ 1 ตำรวจไซเบอร์รวบครูหื่น อนาจารย์ลูกศิษย์ชายวัย 15 ในห้องพักครูพร้อมอัดคลิป
สืบเนื่องจาก กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้จับกุมนายวรายุสฯ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.68 จากนั้นได้สืบสวนขยายผลจากกลุ่มไลน์ พบการสนทนากับผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง มีการพูดคุยในลักษณะลามกอนาจารและยังพบภาพสื่อลามกอนาจารอื่นที่คาดว่าบุคคลในภาพอาจเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว คือ นายอี๊ด (นามสมมติ) อายุ 27 ปี เป็นข้าราชการครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี ซึ่งในบทสนทนา พบการส่งรูปภาพของเด็กนักเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความกังวลเป็นอย่างมาก ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายต่อเด็กนักเรียนขึ้นในโรงเรียน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ชุด TICAC เร่งสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งสามารถขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาได้สำเร็จ
ต่อมา พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต พ.ต.ท.พิชิต เอียงสา รอง ผกก., พ.ต.ท.ธนพงศ์ธัช อ่อนชูเหมรัต สว.ฯ, พ.ต.ท.เขมอธิษฐ์ ทองคำ สว.ฯ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ OUR Rescue ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญา ที่ 121/2568 ลง 10 เม.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ลาดพร้าว กทม. พบนายอี๊ด (นามสมมติ) อายุ 27 ปี พักอาศัยอยู่
ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 รายการ จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว พบสื่อลามกอนาจารเด็กที่ผลิตเอง ทราบภายหลังว่าคือนักเรียนชาย อายุ 15 ปี ของโรงเรียนดังกล่าวและเป็นเด็กนักเรียนที่อยู่ในความปกครองของนายอี๊ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ในส่วนของข้อหาอื่นๆ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
ต่อมา มูลนิธิ OUR Rescue และ พมจ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกันลงพื้นที่จนกระทั่งพบเด็กนักเรียนชาย อายุ 15 ปี ผู้เสียหายคนดังกล่าว จากการสอบถามข้อเท็จจริง พบว่าผู้เสียหายเคยถูกกระทำอนาจารและกระทำชำเราโดยนายอี๊ดหลายครั้ง โดยเหตุเกิดที่ห้องพักครูของนายอี๊ดภายในโรงเรียน โดยหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว นายอี๊ด ได้ข่มขู่และห้ามไม่ให้เด็กนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปบอกใคร
อย่างไรก็ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ปฏิบัติการที่ 2 ตำรวจไซเบอร์รวบ รปภ.เฒ่า อนาจารเด็กวัย 13 อัดคลิปแชร์
สืบเนื่องจากกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้รับแจ้งเบาะแสการกระทำผิดจากมูลนิธิ Our Rescue หรือ OUR (NGO ที่ดำเนินการในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนผู้บังคับใช้กฎหมายของไทยในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก) ว่าพบการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อกลุ่ม “กลุ่ม .งง คับ” ซึ่งมีสมาชิกภายในกลุ่ม ณ วันตรวจพบ จำนวน363 บัญชี ได้นำเข้าสื่อลามกอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวนหลายไฟล์ลงในไลน์กลุ่ม นอกจากนี้ แอดมินของกลุ่มยังแจ้งอีกว่า ยังมีกลุ่มลับอีกหลายกลุ่มให้สมาชิกเลือก ซึ่งค่าสมัครสมาชิกของแต่ละกลุ่มมีราคาที่แตกต่างกันไป หากสนใจเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มใด สามารถโอนเงินแล้วส่งหลักฐานการโอนเงินให้แอดมิน จากนั้นแอดมินจะเชิญเข้ากลุ่มลับ
ต่อมา กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้กระทำผิดทำงานเป็น รปภ.แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพัทยา
ต่อมา พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต 2 (ชป.TICAC 2) นำโดย พ.ต.ท.วิเชียร คำชมภู สว.ฯ ร่วมกับมูลนิธิ OUR Rescue และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดชลบุรี ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา ที่ 63/2568 ลงวันที่ 10 เม.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านพักในอำเภอแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี พบนายเบี้ยว (นามสมมติ) อายุ 52 ปี อยู่อาศัยภายในบ้านดังกล่าว
ผลการตรวจค้น พบของกลางจำนวน 1 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Vivo จากการตรวจสอบข้อมูลภายใน พบสื่อลามกอนาจารเด็กชายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจำนวนหลายไฟล์ และยังพบบัญชีไลน์ที่นายเบี้ยว สร้างกลุ่มลับ ประกาศ รับสมาชิกเข้ากลุ่มลับเพื่อดูสื่อลามกอนาจารที่ตนเป็นผู้จัดหา โดยเรียกเก็บเงินจากบุคคลที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบสื่อลามกอนาจารเด็กที่นายเบี้ยวผลิตเอง โดยยอมรับสารภาพว่า ตนได้ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กชายอายุ 13 ปี โดยอ้างว่า ขณะล่วงละเมิดทางเพศ เด็กชายคนดังกล่าวได้บันทึกภาพการกระทำชำเราไว้ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยตนให้เงินเด็กเป็นค่าตอบแทน ต่อมา ตนเองได้ส่งภาพการล่วงละเมิดทางเพศต่อไปยังบุคคลที่ 3
จากการสืบสวนขยายผล พบเด็กผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดแล้ว จำนวน 1 ราย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ในส่วนของข้อกล่าวหาอื่นๆ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ในส่วนเด็กผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับบ้านพักเด็กจังหวัดชลบุรีเข้าพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อคุ้มครองเยียวยาและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น ความผิดที่คาดว่านายเบี้ยวจะโดนดำเนินคดีได้แก่
1) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ผู้ใด
(1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก
(2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก
(3) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 6 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี