ปปง.มีมติยึดทรัพย์สินรวมกว่า 3,782 รายการ 114 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 2,788 ล้านบาท จ่อตรวจสอบยึดทรัพย์สิน 86 รายคดี
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง.และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2568 และครั้งที่ 4/2568 ซึ่งมี นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง.เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกง อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันออนไลน์ ซึ่งสรุปผลการดำเนินการที่น่าสนใจดังนี้
1.ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 60 รายคดี ทรัพย์สิน 2,373 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,603 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชนหรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันออนไลน์ โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ ดังนี้
- รายคดี นายอานนท์ฯ กับพวก เป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กรณีนี้คณะกรรมการธุรกรรมเคยมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกล่าวกว่า 80 ล้านบาท (ย.62/2567 และจากการสืบสวนขยายผลพบข้อมูลทรัพย์ สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในการนี้คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 12 รายการ เช่น เงินสด และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 67/2568)
- รายคดี นายอดิสรณ์ฯ กับพวก กรณีกลุ่มขบวนการลักลอบลำ เลียงขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิด จำนวน 7 รายการ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 90/2568)
- รายคดี นายเฉลิมชัยฯ กับพวก กรณีการหลอกลวง ชักชวนให้ผู้เสียหาย ลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก พฤติการณ์ การกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 105 รายการ (เช่น ที่ดิน หุ้น สิทธิเรียกร้องในสัญญาประกันภัย สินทรัพย์ดิจิตอล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 55/2568)
- รายคดี นางสาวอภิญญาฯ กับพวก กรณีการหลอกลวงให้ลงทุนสินทรัพย์ ดิจิตอลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (Hybrid Scam) หลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนระยะสั้นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 242 รายการ เช่น ห้องชุด ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 62/2568)
- รายคดี บริษัทสปาต้า แอคเคาน์ติ้ง จำกัด โดยนางสาวสุจินันท์ฯ กับพวก กรณีการหลอกลวงเกี่ยวกับการบริการจัดทำบัญชีและชำระภาษี โดยมีขบวนการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการหลอกลวง อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และ (18) ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 9 รายการ เช่น ยานพาหนะ และที่ดิน รวมมูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 74/2568)
- รายคดี นางสาวนภษรฯ กับพวก กรณีเกี่ยวกับการลักทรัพย์นายจ้าง อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวนกว่า 1,000 รายการ เช่น เครื่องประดับ สินค้าแบรนด์แนม วัตถุมงคล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 343 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 80/2568)
- รายคดี กลุ่มบุคคลที่จัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ www.lv68th.com รายนายสันติธรฯ กับพวก กรณีนี้เคยมีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว 5 รายการ มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 226/2567) และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบข้อมูล การโอนและรับโอนเงินผ่านบัญชีม้าบุคคลธรรมดา และบัญชีม้าที่เป็นนิติบุคคล มีการซื้อขาย เหรียญดิจิทัลบังหน้า มีบริษัทนอมินี ซึ่งเปิดมาเพื่อโอนเงินและแปรสภาพเป็นเงินสดและนำออกไป จากระบบ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด(เพิ่มเติม) จำนวน 2 รายการ เงินสดรวมมูลค่าประมาณ 32 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 63/2568)
- รายคดี นางสาวอริสาฯ กับพวก กรณีความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอ นิกส์ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 30 รายการ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 65/2568)
- รายคดี นายธาดาฯ กับพวก กรณีเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการสืบสวนขยายผลจากข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือของกลุ่มเครื่อข่ายการพนันออนไลน์และพบความเชื่อมโยงกับทรัพย์สินจำนวนมาก ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึด และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 87 รายการ (เช่น เงินสด ที่ดิน หน่วยลงทุน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 557 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 58/2568)
- รายคดี การพนันทางสื่ออิเล็ก ทรอนิกส์ เว็บไชต์ lengame888 รายนายบูรพาฯ กับพวก พบข้อมูลการถอนเงินสดที่ได้จากการกระทำความผิด อันเป็นความผิดมูลฐานตาม มาตรา 3 (9) ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิด จำนวนกว่า 16 รายการ เช่น เงินสด ทองคำ รวมมูลค่าประมาณ 26 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 98/2568)
- รายคดี นายสง่าฯ กับพวก เครือข่ายโกฟุก ซึ่งเป็นความผิด เกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ความผิดฐานอั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน กรณีนี้คณะกรรมการธุรกรรมเคยมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกล่าว 972 ล้านบาท และจากการสืบสวนสอบสวนพบข้อมูลการโอนผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด และทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวจำนวน 372 รายการ (เช่น ที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่ากว่า 436 ล้านบาท (คำสั่ง ย.100/2568)
2.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน ตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 41 รายคดี ทรัพย์สิน 1,150 รายการ มูลค่าประมาณ 897 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ ดังนี้
- รายคดี การพนันทางสื่ออิเล็ก ทรอนิกส์ www.sand168.com
- รายคดี นายพิทยาฯ กับพวก โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 696 รายการ (เช่น เงินสด ทองรูปพรรณ สินค้าแบรนด์เนม และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 244 ล้านบาท (คำสั่ง ย.7/2568)
- รายคดี บริษัทดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง จำกัดฯ กับพวก กรณีหลอกลวง ให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนจำนวนมาก อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งกรณีนี้ มีส่วนที่ศาลแพ่งมีคำสั่งให้คุ้มครองสิทธิผู้เสียหายแล้วกว่า 2,300 ราย ซึ่งปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฏีกา (ย.69/2556)โดยต่อมาพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิดเพิ่มเติม ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 3 รายการ (ที่ดิน) มูลค่าประมาณ 269 ล้านบาท (คำสั่ง ย.9/2568)
- รายคดี บริษัทสยาม แอฟโร จำกัด โดยนายกิตติคุณฯ กับพวก กรณีหลอกลวงให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน ได้รับผลตอบแทนจากการการหาสามชิกมารวมลงทุนต่อๆ ไป อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่อง ให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 26 รายการ (ห้องชุด และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 32 ล้านบาท (ย.21/2568)
- รายคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการดำเนินการกับทรัพย์สินไปแล้วกว่า 320 ล้านบาท โดยในการพิจารณาครั้งนี้ คณะกรรมการธุรกรรม ได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน (เพิ่มเติม) จำนวน 23 รายการ เช่น หน่วยลงทุน และสลากออมสิน มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท (ย.27/2567)
- รายคดี บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ กับพวก กรณีนางสาวกรกนกฯ หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พลฯ หรือป๋าเบียร์ อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนฯ และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 38 รายการ เช่น เงินสด รถยนต์ ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่าประมาณ 171 ล้านบาท (ย.29/2568 และ ย.32/2568)
ทั้งนี้ ในคดีความผิดที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน หรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ หรือความผิดที่มีผู้เสียหายในคดีรายอื่นๆ สำนักงาน ปปง.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิฯ โดยให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายในรายคดีที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานปปง. ภายในระยะเวลา 90 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามแต่คดี โดยผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. (www.amlo.go.th)
3.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สิน ไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) จำนวน 13 รายคดี ทรัพย์สิน 249 รายการ มูลค่าประมาณ 288 ล้านบาท ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ คือ
- รายคดี นายกุลเกียรติฯ กรณีการทุจริตทรัพย์สินของสหกรณ์การเกษตรโกรกพระ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิ และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีทรัพย์สินส่วนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (เพิ่มเติม) จำนวน 4 รายการ เป็นที่ดินมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 10/2568)
- รายคดี นางสาวรัชญาฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งการดำเนินการกับทรัพย์สินในกรณีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (เพิ่มเติม) โดยคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย 7 ราย ทรัพย์สิน จำนวน 142 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท (คำสั่ง ย.8/2568)
- รายคดี นางสาวจันจิราฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับ การลักทรัพย์ฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งการดำเนินการกับทรัพย์สิน ในกรณีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบ ให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหายจำนวน 1 ราย ทรัพย์สิน จำนวน 164 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท (คำสั่ง ย.230/2567)
- รายคดี นางสาวเดือนนภาฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับ การฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ความผิดเกี่ยวกับการนพนันฯ และความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งการดำเนินการกับทรัพย์สินในกรณีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหายจำนวน 294 ราย ทรัพย์สิน จำนวน 19 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 178 ล้านบาท (คำสั่ง ย.94/2567)
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี