โฆษกDSI เผยจ่อเรียกสอบปากคำ '51 วิศวกร' ปมมีชื่อคุมงานก่อสร้างตึก สตง. ขณะที่'ชัยฤทธิ์'- 'สมเกียรติ' 2 วิศวกรเข้าแสดงตนปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง /เผยสัปดาห์หน้าเชิญ 'บ.อิตาเลียนไทย' เข้าให้ข้อมูล หลังเลื่อนนัดพบพนักงานสอบสวน
เวลา 11.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2568 ที่บริเวณหน้าห้องประชุม กคร. หรือกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ และในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่าจากการที่ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด เมื่อวันที่17เมษายน ที่ผ่านมา เราได้มีการตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าในเครื่องคอมพิวเตอร์มีพยานหลักฐานใดบ้าง และยังได้ยึดพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการก่อสร้าง
ส่วนในวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบเอกสารต่างๆ ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายยังทำให้พนักงานสอบสวนพบข้อมูลเกี่ยวกับ 51 วิศวกรนั้น ดีเอสไอจะต้องมีการทยอยเชิญวิศวกรทั้ง 51คน เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน เพื่อขอข้อมูลข้อเท็จจริงนำไปประกอบการดำเนินการกิจการ โดยเฉพาะประเด็นของการควบคุมงาน
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า สำหรับวิศวกรทั้ง 51 รายที่ดีเอสไอพบว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับตึก สตง. นั้น ล่าสุดได้รับรายงานว่า มีวิศวกร 2 คน ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลก่อนหน้านี้แล้ว ได้แก่ 1.นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ 2.นายชัยฤทธิ์ (สงวนนาม สกุล) ส่วนอีก 2 วิศวกรที่ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลในวันนี้ ตนยังไม่ได้รับรายงานยืนยัน แต่ได้มีนายชัยฤทธิ์ เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ามีตัวเขาปรากฏอยู่ในรูปภาพจริงๆ ทั้งนี้ ดีเอสไอจะต้องเชิญวิศวกรทั้ง 51 รายเข้าให้ปากคำพยานแน่นอน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการควบคุมงานจริงหรือไม่ เพื่อทราบว่ามีใครเป็นวิศวกรในโครงการนี้จริงบ้าง แล้วจึงจะขยายผลไปได้ว่ามีการปลอมลายเซ็นหรือไม่ รวมทั้งกระบวน
การทำงานถูกต้องหรือไม่
พ.ต.ต.วรณัน เผยต่อว่า ส่วนกรณีของนายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี ที่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นวิศวกรผู้ออกแบบอาคาร สตง.แห่งใหม่ ที่ถล่มนั้น วานนี้ (17 เม.ย.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ไปพบเจ้าตัวแล้ว และพบว่ามีอาการป่วยจริง โดยเจ้าตัวยังได้ขอเวลาในการเตรียมเอกสารประกอบเพื่อมาให้การ คาดว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า
พ.ต.ต.วรณัน ยืนยันว่า ผู้ที่เกี่ยว ข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่แจ้งขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน หรือกรณีของนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำตารางนัดหมายพยานไว้เรียบร้อยแล้ว หรือหากตำรวจ สน.บางซื่อ มีการเรียกสอบปากคำนายปฏิวัติ ในวันที่ 21 เมษายนนี้ ดีเอสไอก็อาจไปร่วมสอบปากคำด้วยได้
พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า สำหรับภาพรวมคดีนอมินีขณะนี้ มีความคืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว และหลังจากนี้เป็นกระบวนการพิจารณาว่าหลักฐานมีความเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใดหรือไม่ ส่วนคดีที่ทำคู่ขนานก็จะมีทั้งคดีการฮั้วประมูล (มาตรา 7 และมาตรา 8) ซึ่งได้ขยายผลออกมา โดยองค์ประกอบความผิดคดีฮั้วประมูลมีหลายเรื่อง เช่น การที่ทำให้การแข่งขันราคาไม่เป็นธรรมโดยใช้กลอุบายไปฟันราคา เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาแล้วไปลดค่างานหรือการดำเนินการอย่างอื่นเพื่อลดค่าใช้จ่าย ก็เข้าข้อกฎหมายนี้ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีคดีเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เหล็กเส้นที่ตกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานผลิตภันฑ์มาตร ฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ. ที่หากพบความผิด เจ้าหน้าที่ สมอ. ก็จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นอีก 1 คดี และคดีสุดท้ายที่ดีเอสไอตรวจสอบ คือ กรณีบริษัทที่ขายเหล็กให้กับโครงการก่อสร้างมีการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารภาษีที่ไม่ถูกต้อง
พ.ต.ต.วรณัน ยังยืนยันด้วยว่าไม่กังวล แม้จะมีกระแสข่าวว่าคนที่แก้ไขแบบอาคาร สตง. มีความเกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. โดยบอกว่าเรื่องนี้สปอร์ตไลท์ของสังคมค่อนข้างเยอะ ไม่น่าจะมีปัญหา และดีเอสไอรับคดีขนาดใหญ่ ทำงานเป็นรูปแบบคณะกรรมการ เรื่องนี้จึงไม่เป็นประเด็น
ขณะที่ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล เผยว่า วันนี้ตนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ตรวจสอบเอกสาร เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงภาพรวมทั้งหมด และดูว่าเอกสารที่ดีเอสไอได้ตรวจยึดมาจากพื้นที่เป้าหมายทั้ง 4 จุดนั้น เอกสารใดคือเอกสารสำคัญบ้าง เพื่อใช้ดำเนินการในส่วนต่อไปได้ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบพยานเอกสาร ทั้งนี้ ตนเรียนว่ามันต้องดูรายละเอียดทุกอย่าง จึงจะรู้ว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 21 เมษายน นี้ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อาจเดินทางมาร่วมประชุมหารือกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะประเด็นพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมก่อสร้างอาคารตึก สตง.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี