อัปเดตตึกสตง.ถล่ม! เสียชีวิต 47 ราย ยังค้นหา 47 ราย / เร่งค้นหาร่างผู้ประสบเหตุอาคาร สตง.ถล่มต่อเนื่อง ตั้งเป้าเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จในสิ้นเดือนนี้ พร้อมเข้าชี้แจงสภาพร้อมหน่วยงานนอก หารือเกณฑ์เงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 ความคืบหน้ากรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ เขตจตุจักร กทม.ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากการติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ว่า ล่าสุด ณ เวลา 18.00 น.ยอดผู้ประเหตุจากอาคาร สตง.จำนวน 103 ราย เสียชีวิต 47 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 0 ราย บาดเจ็บ 9 ราย คงเหลืออยู่ระหว่างการติดตามอีก 47 ราย
ขณะที่ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการกู้ซากอาคาร สตง.ถล่ม และการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ว่า ตอนนี้พบทั้งชิ้นส่วนของร่างกาย และทรัพย์สินกว่า 100 ชิ้น ดังนั้นการพิสูจน์ต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้ผิดพลาด อาจต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก หรือใช้เวลาเพิ่มขึ้น จึงได้มีการปรับเวลาในการแจ้งข้อมูลการพิสูจน์อัตลักษณ์รายบุคคลรอบเดียวในเวลา 18.00 น.ของทุกวัน
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานถ้าเป็นการรื้ออย่างเดียว ไม่ระวังอะไรเลยโดยไม่หยุด ลดความสูงของซากอาคารอย่างเดียวน่าจะทำได้วันละประมาณ 3 เมตร แต่ในการทำงานต้องมีการหยุดเมื่อคิดว่าพบร่างหรือชิ้นส่วนแล้วต้องเข้าพื้นที่ให้ได้ ก็อาจจะต้องมีการหยุดบ่อยและใช้ความละเอียดมากขึ้น แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังมั่นใจว่าจะทำให้เสร็จและเข้าถึงชั้นหนึ่งได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับหน้างานว่าจะมีความซับซ้อนมากน้อยแค่ไหนอาจจะต้องบวกลบเวลาเพิ่มขึ้น
ในส่วนของการปิดถนนนั้น ปัจจุบันถนนที่เดินทางเข้าตึกแดงเปิดแล้ว อยู่ระหว่างการจัดระเบียบใหม่ ย้ายรถและสิ่งของออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีผู้ค้าและผู้ประกอบการในพื้นที่บางส่วน ซึ่งตอนนี้ กทม.ได้ทำเรื่องขอปรึกษาไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) , กรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง กรณีมีการปิดถนนเพื่อดำเนินงาน ว่ามีส่วนใดที่พอจะช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบได้ คาดว่าภายในอาทิตย์หน้าอาจจะสามารถยืดหยุ่นหรือปรับระเบียบบางอย่างได้ไหม หรืออาจมีการขนย้ายวัสดุบางส่วนออก คงไว้ในส่วนที่จำเป็นจริงๆ ที่ยังต้องอยู่ในพื้นที่ และจะพยายามเร่งแก้ไขไม่ให้เดือดร้อนเท่าที่จะทำได้ เพราะขณะนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์แล้ว
รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวด้วยว่า สำหรับระเบียบหลักเกณฑ์ของเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยเบื้องต้น และค่าวัสดุที่ต้องซ่อมแซม มีมานานพอสมควรแล้ว เราอาจจะคุ้นชินเวลาเกิดเหตุอัคคีภัย บ้านเสียหายทั้งหมด เพดานสูงสุดจะอยู่ที่ 49,500 บาท หมายความว่า ต้องเสียหายทั้งหมดหรือเสียหายมาก ไม่ได้เป็นการชดใช้หรือชดเชยให้ทั้งหมด ซึ่งตามระเบียบกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น ถ้าบ้านมีความเสียหายจะมีเงินช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุในการซ่อมแซม ซึ่งต้องไปดูว่าวัสดุที่เสียหายต้องมีค่าซ่อมแซมเท่าไหร่ ซึ่งกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขต จะต้องประเมินหน้างานว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างไรบ้าง จะมีการนำความเสียหายที่เกิดขึ้นมาประเมินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือเท่าไหร่
ทั้งนี้ จากเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้น ในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.68) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากกรุงเทพมหานคร รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะเข้าไปชี้แจงที่สภาฯ ว่าจะสามารถปรับเกณฑ์นี้ได้ไหม เพราะเกณฑ์ที่กำหนดมาตอนแรกอาจไม่ได้คิดถึงความเสียหายของอาคารชุด ซึ่งเงินช่วยเหลือนี้เป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ในวันพรุ่งนี้น่าจะมีความก้าวหน้าในการเจรจาเรื่องของเกณฑ์ใหม่ได้บ้างและอาจจะมีการขยับเกณฑ์อัตราเงินช่วยเหลือ กรุงเทพมหานครพยายามเร่งทำให้เร็วเพื่อที่ผู้ประสบภัยจะได้รับเงินเร็ว แต่หากมีการปรับแก้เกณฑ์หรือยกเว้นเกณฑ์บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาอีกนิดนึง คงต้องรอดูพรุ่งนี้
ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ผลจากการดำเนินงานเมื่อวาน (19 เม.ย.) พบร่างและกระดูกของผู้ประสบภัย 18 ชิ้น ในส่วนของทรัพย์สิน พบกระเป๋าเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมด 9 ใบ และะโทรศัพท์ 1 เครื่อง
ส่วนความสูงของซากอาคาร เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.ในโซน B และ C ลดเหลือประมาณ 9.81 เมตร ขณะที่โซน A และ D เหลือ 11.51 เมตร เมื่อวานรถบรรทุกวิ่งขนวัสดุได้ 242 เที่ยว มีการใช้น้ำมันเพิ่มเติมจากเดิมประมาณ 1,000 กว่าลิตร รวมเป็น 6,374 ลิตร เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ที่นำวัสดุไปกอง และมีการนำเครื่องจักรไปบีบอัดเหล็กให้แน่นแล้วยกวางซ้อนกันเพื่อเปิดพื้นที่ในการนำรถเก็บวัสดุออกให้ได้มากขึ้น
สำหรับแผนงานในวันนี้ จะยังคงปฏิบัติดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้ง 4 โซน และจะเน้นการขนวัสดุในโซน C ออกด้วย อาจจะมีการปรับนำรถ 6 ล้อ ของ กทม.มาช่วยเนื่องจากมีความคล่องตัว และพื้นที่ค่อนข้างแคบ ก็จะสามารถเพิ่มเที่ยวรถในการขนวัสดุออกได้ ส่วนโซน B มีการขุดด้านข้างเข้าไปถึงจุดที่ทีมต่างชาติเคยแจ้งว่าพบสัญญาณชีพ ซึ่งเหลืออีกประมาณ 1 เมตร ซึ่งมีเป้าหมายในการเข้าถึงจุดนั้นให้ได้ในวันนี้ รวมถึงด้านบนจะมีการทำงานในการขนเศษปูนและตัดเหล็กควบคู่ไป ขณะนี้การทำงานยังอยู่ในไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี