รถบัสเบรกแตก
ชนท้ายรถพ่วง
ไฟลุกไหม้ทั้งคัน
ดับ7บาดเจ็บ53
สลด! รถบัสโดยสารเบรกแตก ชนรถบรรทุกพ่วงจนไฟลุกไหม้ บนทางลงเขา พื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ดับ 7 บาดเจ็บกว่า 50 ราย เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัด รอง ผวจ.ปราจีนฯ สั่งเร่งช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 01.40 น. วันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทาง เส้นทางระยอง-หนองคาย ชนท้ายรถบรรทุก บริเวณเขาศาลปู่โทน ถนนสาย 304 พื้นที่หมู่ 8 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จนเกิดเพลิงลุกไหม้รถโดยสารทั้งคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอย่างน้อย 7 ราย ภายหลังตำรวจ สภ.วังขอนแดง จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุ จึงประสานกู้ภัย เข้าตรวจสอบ โดยพบรถโดยสาร ทะเบียน 10-1725 อุดรธานี ส่วนคนขับ 2 คน ถูกไฟคลอกเสียชีวิต บริเวณประตูด้านซ้าย พบเด็กรถ ถูกประตูหนีบเสียชีวิตอยู่หลังคนขับ ขณะที่บริเวณชั้น 2 ของรถ พบผู้เสียชีวิต 3 ราย นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย
ส่วนสภาพรถบริเวณด้านหน้า ชนท้ายรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ 500 สีเขียว ทะเบียนตัวแม่ 71-5435 ปทุมธานี จนไหลไปชนท้ายรถบรรทุกพ่วงบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ DECA 360 สีขาว ทะเบียนตัวแม่ 70-8659 นครราชสีมา ตัวลูก 71-1158 นครราชสีมา ที่บรรทุกแป้งมาเต็มคัน ทางกู้ภัยในพื้นที่ต้องระดมกำลังกันเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ พร้อมเร่งนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านทับลาน พร้อมกับเร่งควบคุมเพลิง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ
สอบสวนนายนฤพนธ์ คำสว่าง 54 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร กล่าวว่า รถที่เกิดเหตุเดินทางมาจาก จ.หนองคาย ช่วงนั้นตนเองนอนหลับ แต่เห็นมีคนบอกว่ารถเบรกแตก จึงตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบว่ารถใช้ความเร็ว ขับออกซ้ายออกขวา เพราะคนขับพยายามหลบรถข้างหน้า จนเมื่อถึงที่เกิดเหตุ จึงชนกับรถบรรทุกจนตนหัวคะมำ สำหรับรถเที่ยวนี้ มีผู้โดยสารมาเต็มคันรถ
ด้านนายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี กล่าวว่า ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถบัสโดยสารชนกับรถบรรทุก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งรถบัสโดยสารคันนี้ เดินทางมาจาก จ.หนองคาย กำลังมุ่งหน้าไป จ.ระยอง ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากรถเบรกแตก แต่สาเหตุที่แน่ชัดยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง เนื่องจากคนขับรถทั้ง 2 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ขณะที่ พ.ต.ท.ศิวภัสส์ ภูริพัศชัยบุญชู สว.(สอบสวน) สภ.วังขอนแดง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถโดยสารคันเกิดเหตุ เป็นรถบัส 2 ชั้น รับผู้โดยสารจากต้นทาง จ.หนองคาย มุ่งหน้า จ.ระยอง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งลงเขาที่ลาดชัน รถเกิดเบรกแตก คนขับจึงควบคุมรถไม่ได้ ก่อนจะประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุก จนเกิดเพลิงลุกไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ สำหรับยอดผู้บาดเจ็บซึ่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนาดี รวม 39 ราย โรงพยาบาลกบินทร์บุรี 13 ราย และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ 304 จำนวน 1 ราย รวมทั้งหมด 53 ราย
ส่วนนายลำสันต์ พวงภู่ 63 ปี กล่าวว่า ในช่วงที่ขับรถมาตามทาง ก็ถูกรถทัวร์คันดังกล่าวเฉี่ยวชน เมื่อมองไปอีกทีก็เห็นว่ารถเสียหลักไปมาอย่างน่ากลัว เนื่องจากรถขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะคิดในใจว่ารถน่าจะเกิดปัญหา คนขับจึงควบคุมรถไม่ได้ หลังจากขับรถตามมา ก็เห็นว่ารถทัวร์ประสบอุบัติเหตุแล้ว แต่ยังไม่เกิดเพลิงไหม้ โดยมีคนลงมาจากรถ บางส่วนจะขึ้นไปเอาทรัพย์สิน ตนยังต้องบอกให้รีบช่วยเหลือคนที่ยังติดอยู่ ให้ทุบกระจกรถ และยังได้เข้าไปช่วยลากคนที่บาดเจ็บออกมา แต่หลังจากช่วยอยู่ระยะหนึ่ง เริ่มได้กลิ่นไหม้ มีควันออกมาจากรถ จึงเรียกคนให้เอาถังดับเพลิงมาช่วยกันดับ แต่ก็เอาไม่อยู่
นายชนาธิป โคกมณี รอง ผวจ.ปราจีนบุรีกล่าวว่า ได้รับรายงานอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากรถคันดังกล่าวเบรกแตก ก่อนจะไถลลงมาตามเส้นทางขาลงเขา ด้วยความเร็วรถ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วไปชนกับรถเทรลเลอร์พ่วง 22 ล้อ ที่จุดเกิดเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมีรถที่ประสบอุบัติเหตุครั้งนี้รวม 4 คัน เป็นรถบรรทุกแป้งมัน 2 คัน รถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถบัสคันเกิดเหตุอีก 1 คัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี