ซุบซิบกทม.

ต่อจากเมื่อวานกรณีที่ข้าราชการสำนักสิ่งแวดล้อมออกมาติติงการปลูกไม้เลื้อยบริเวณใต้เส้นทางรถไฟฟ้า คล้ายเหมือนกระตุ้นเตือนการปลูกไม้เลื้อยชั่วคราวใต้ทางรถไฟฟ้าว่า มองตามสภาพที่เป็นจริงแล้วความสวยงามมีน้อยมาก สิ่งที่ปรากฎให้แลเห็นคือ รกรุงรัง เป็นมลพิษทางสายตา ขณะผู้ใช้รถใช้ถนนอีกฝั่งไม่อาจมองเห็นปัญหาที่จะเกิดตามมาได้ เช่น เหตุด่วนเหตุร้ายของแต่ละฝั่ง หรือกรณีรถอีกฝั่งกระทำการประมาทวิ่งปีนข้ามเกาะกลางมา โดยที่อีกฝั่ง วิ่ง  จอด หรือติดไฟแดงอยู่แล้วหลบหลีกไม่ได้ เพราะไม่เห็นรถที่ทำประมาท ที่สำคัญคำติติงยังบอกด้วยว่าการปลูกไม้ล้มลุกดังกล่าวสิ้นเปลืองงบประมาณเปล่าๆ เพราะปลูกๆขุดๆรื้อๆ ...คำติติงดังกล่าวบอกตรงๆรู้สึกเห็นด้วยอย่างมาก เพราะการปลูกไม้เลื้อยไม้ประดับ รวมทั้งที่ไปห่อหุ้มเสาตอม่อรถไฟฟ้าด้วยแล้ว บอกได้ว่ามันขาดความสวยงามจริงๆ ครั้งหนึ่งเคยทะลึ่งเอาตะกร้าไม้ประดับไปผูกติดไว้เสาตอม่อ เห็นแล้วทุเรศมากกว่าสวยงาม สุดท้ายก็ต้องโละทิ้งเนื่องจากการรักษาพรวนดินให้น้ำลำบาก วันนี้ปลูกห่อหุ้มให้มันรถทึบเข้าไปอีกระดับ ทำเหมือนเสาตอม่อถ้าไม่เอาไม้พวกนี้หุ้มห่อแล้วจะดู“อัปมงคลกาลกินี“อย่างไรอย่างนั้น เลิกเสียเถอะการปลูกไม้เลื้อยใต้เส้นทางรถไฟฟ้า ปลูกไม้ยืนต้นที่แข็งแรงพอโตขึ้นแล้วตัดตกแต่งจะดูดีมีสกุลกว่า หรือถ้าใครจะออกมาแย้งว่านี่เป็นนโยบายการเพิ่มต้นไม้ล้านต้นหรือสองล้านต้นของผู้ว่าฯกทม. ซึ่งถ้าใครขืนบ้าจี้อธิบายไร้สมองคิดก็ต้องบอกว่าเป็นกรรมของ กทม. เนื่องจากคิดไม่เป็นแต่อยากพูดแบบ”เอาสีข้างเข้าถู“...อีกเรื่องที่ขณะนี้พูดกันมาก คือ การเพิ่มอัตราค่าจัดเก็บขยะจากเดิมเดือนละ20บาท ต่อจากนี้ไปเป็น60บาทต่อเดือน แต่ถ้าลงทะเบียนคัดแยก“บ้านนี้ไม่เทรวม”อย่างถูกต้องก็จะได้รับสิทธิ์จ่ายตามอัตราเดิม(20บาทต่อเดือน) ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเก็บค่าขยะเพิ่ม จุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้ประชาชนรู้จักคัดแยกขยะ ตรงนี้เป็นสิ่งดี แต่ ณ ปัจจุบันเศรษฐกิจกำลังวิบัติลงเหว ไพร่ฟ้าประชาชนหน้านิ่วคิ้วตกเดือดร้อนทั่ว ข้าวของในท้องตลาดอาหารการกินปรับราคากันบ้าเลือดไม่มีใครหน้าไหนที่รับผิดชอบออกอาการเดือดร้อนเลย ทั้งๆที่คนรับผิดชอบพวกนี้หลายคนเคย”ปากกัดตีนถีบ“กันมาก่อน แต่พอเสพสุขแล้วกลับลืมความทุกข์ที่เคยมีมา ช่างน่าสมเพชชีวิตติดดินของประชาชนจริงๆ ค่าขยะปรับได้ขึ้นได้ ทำไมไม่รอสักพักจะรีบไปเพื่ออะไร...

ไผ่ฎำ