ศาลสั่งจำคุก 2อัยการ อดีตรอง อสส. 3 ปีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ สั่งคดีบอส ส่วนอดีต อัยการ อาวุโส 2 ปี ฐานสนับสนุน แทรกแซง ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องในคดี เปลี่ยนความเร็วรถช่วยบอส พ้นผิด ซิ่งรถหรูชน ตร.ทองหล่อดับปี55 ส่วนบิ๊กอ๊อด กับพวกที่เหลืออีก6คนศาลยกฟ้อง แต่ให้ขังระหว่างอุทธรณ์ ก่อนศาลให้ประกันคนละ2 แสน บิ๊กอ๊อดเผย โล่งที่ศาลให้ความยุติธรรม ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ยันไม่โกรธกลุ่มคนเห็นต่าง อธ.อาญาคดีทุจริตฯ ทำความเห็นแย้ง ระบุ จำเลย6 คนที่ศาลยกฟ้อง น่าจะผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
วันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบหมายเลขดำ อท 131/2567 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุดกับพวกรวม 8 คนเป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 200, 83, 86 พรป.ประกอบรัฐธรรมนูญญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พรป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172,192
กรณีที่พวกจำเลยทั้งหมด ร่วมกันกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ฯ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา เพื่อให้พ้นผิด หรือรับโทษน้อยลง ที่นายวรยุทธขับรถสปอร์ตหรูเฟอร์รารี่ เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555 จำเลยทั้ง 8 คนให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวคนละ 2 แสนบาท
วันนี้ จำเลย ทั้งหมดทนายความ และผู้ติดตามเดินทางมาศาล โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษากว่า 140 หน้า นานกว่า 3 ชั่วโมง
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของโจทก์-จำเลย และพยานหลักฐานต่างๆ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบหักล้างแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า นายชัยณรงค์ จำเลยที่ 4 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 โดยสำนักงานดังกล่าวนี้ไม่ได้รับผิดชอบคดีที่เกิดพื้นที่สน.ทองหล่อ อันเป็นสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งจำเลยที่ 4 ไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เป็นพนักงานอัยการผู้รับชอบสำนวนคดีนี้ และไม่ได้หน้าที่พิเศษตามที่ทางราชการมอบหมายในคดีนี้แต่อย่างใด ทั้งจำเลยที่ 4 ไม่ได้เป็นตัวแทนโดยปริยาย ไม่ได้เป็นพยานหรือพยานผู้เชี่ยวชาญ จำเลยที่ 4 ไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะเข้าไปร่วมประชุมเพื่ออธิบายข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้แก่พนักงานสอบสวน พ.ต.อ. ธ หรือบุคคลอื่น แสดงถึงมูลเหตุจูงใจของจำเลยที่ 4 ที่จะเข้าไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด จำเลยที่ 4 ได้อ้างสถานะว่าตนเป็นอัยการ รู้จักกับบุคคลต่าง ๆ ทั้งฝ่ายตำรวจและพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่ เพื่อให้ พ.ต.อ. ธ เกิดความน่าเชื่อถือ เพื่อโน้มน้าวให้ พ.ต.อ. ธ คล้อยตามความเห็นของตน แสดงให้เห็นถึงแรงจูงใจพิเศษที่ต้องการที่จะช่วยให้นายวรยุทธไม่ต้องรับโทษ ยิ่งเมื่อพิเคราะห์ถึงถ้อยคำของจำเลยที่4 ที่ว่า "อยากให้ขอให้ความเร็วเป็น 79.22 กม.ต่อชั่วโมงตามที่อาจารย์สายประสิทธิคำนวณ" "คือตามกฎหมายห้ามขับเกิน80 อยากจะขอความกรุณาให้มันอยู่ range ตรงนั้น"
"อันนี้ขอความกรุณาท่านผู้การ ทางอัยการเขาสั่งมาอย่างนี้ คือเขาก็มองว่าเขาจะช่วยนะ คือก็อยากให้เขาสบายใจนิดนึงใช่ไหมฮะ เวลาเขาจะสั่ง คือเขาสั่งมาเนี่ย เขาตั้งใจจะช่วยเต็มที่ แล้วก็อยากจะขอความกรุณานะฮะ เรียนตรง ๆ เลยฮะ" "ไม่เกิน 80 " แม้ พ.ต.อ. ว ถามจำเลยที่4 ว่า "เอ้อ ท่านอัยการกองคดีอาญา7 ครับ ความเร็วมันกำหนดไว้เท่าไหร่ 80" และจำเลยที่ 4 ตอบว่า "ไม่เกิน 80 " จำเลยที่ 3 พูดว่า"ในกรุงเทพ ในเขตเทศบาล ไม่เกิน 80 นอกเขตเทศบาล " เมื่อ พ.ต.อ.ว ทักท้วงว่า "ผมพยายามคิดตัวเลขในใจของผมได้ประมาณ 88 ผมยังไม่ได้คำนวณแต่ใช้ความทรงจำอย่างเดียว ผมได้ประมาณ 88" แต่จำเลยที่4 พูดขอร้องโน้มน้าวแสดงความต้องการว่า "เรียนตรง ๆเลยครับ ขอความกรุณานะฮะ"
พิพากษาว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา200 วรรคหนึ่ง พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา86 ส่วน จำเลยที่ 8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 และมาตรา200 วรรคหนึ่ง พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
การกระทำของจำเลยที่ 4 และที่ 8 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ซึ่งเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายมีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา90 จำเลยที่4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
จำเลยที่ 8 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จำคุกจำเลยที่ 4 กำหนด 2 ปี จำคุกจำเลยที่ 8 กำหนด 3 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่1-3,5-7 แต่ออกให้หมายขังจำเลยที่1-3,5-7 ไว้ระหว่างอุทธรณ์ ฃ
ต่อมาทนายความจำเลยทั้ง 8 คน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้จำเลยทั้ง 8 คนมีประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์คดีโดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท
ภายหลังได้รับการปล่อยตัวพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ตนรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ตนเองสามารถพ้นมลทิน และรู้สึกมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของไทย ทั้งนี้ตนยืนยันมาโดยตลอดว่ามั่นใจว่าสุดท้ายแล้ว ตนจะได้รับความยุติธรรมจากศาลอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าอยากขอบคุณศาลอย่างไรบ้าง พล.ต.อ สมยศ กล่าวว่า ตนอยากขอขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ถึงแม้ในวันนี้กลุ่มคนที่ไม่เข้าใจตนหรือเคยคิดในทางลบกับตนนั้น ตนไม่เคยโกรธกลุ่มคนเหล่านั้นเลย เพราะอาจจะได้รับข้อมูลในอีกด้านหนึ่งมา
เมื่อถามว่าหลักฐานในส่วนใดที่ทำให้ตนเองพ้นมลทิน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง ศาลท่านได้ฟังและรู้ว่าส่วนไหนคือความจริง นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ตนพ้นมลทิน และก่อนหน้านี้ในการไต่สวนตนก็ได้พูดความจริงทั้งหมดต่อศาลด้วย จึงรู้สึกภูมิใจกับกระบวนการยุติธรรมที่ให้ความยุติธรรมกับตนเอง
เมื่อถามว่ามองความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯเป็นอย่างไร พล.ต.อ สมยศ กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ โดยศาลสั่งอะไรตนมาก็ขอยืนยันว่าพร้อมที่จะทำตามคำสั่งของศาลอย่างแน่นอน โดยเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของตนนั้นมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ แต่ก็ไม่ได้กระทบกับการดำเนินชีวิตเพราะการเดินทางออกนอกประเทศแต่ละครั้งก็สามารถขออนุญาตได้ รวมทั้งครั้งนี้ได้ใช้หลักทรัพย์เดิมและเงื่อนไขเดิมในการยื่นประกันตัว เนื่องจากถึงแม้ศาลจะยกฟ้องก็มีคำสั่งให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์จึงต้องทำเรื่องขอประกันตัว ซึ่งทั้ง 8 คน ก็ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ส่วนกรณีการจะยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหรือไม่นั้นเพื่อไม่ให้อัยการอุทธรณ์ จากนี้จะต้องไปปรึกษาทนายถึงเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งนี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯได้ทำความเห็นแย้งคดีนี้ไว้ช่วงท้ายคำพิพากษาด้วยว่า จำเลยที่ 1-3 และ5-7 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนด้วย ซึ่งความเห็นแย้งนี้ของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะแนบไปกับสำนวนในชั้นพิจารณาของศาลอุทธรณ์ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี