มางานไม่ได้มาเที่ยว! ผู้ว่าฯ ชัชชาติ นำผู้บริหาร กทม. ลุยปารีส ฝรั่งเศสควักงบหนุน เรียนรู้โมเดลเมืองสีเขียว ระบบรางแห่งอนาคต Grand Paris Express
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมหารือภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครกับสำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (AFD) ระหว่างวันที่ 23 - 25 เม.ย.68 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นำโดย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิศณุ ทรัพย์สมพล และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร (Chief Sustainability Officer: CSO) และนายคุณานพ เลิศไพรวัลย์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศ เดินทางเข้าร่วมการประชุมหารือภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครกับ AFD โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ และหารือความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กรุงปารีส และ AFD พร้อมเยี่ยมชมพื้นที่ตัวอย่างความสำเร็จด้านการพัฒนาเมืองในกรุงปารีส และแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ โดย AFD ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดประชุมหารือกับผู้บริหารเมือง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรธุรกิจไม่แสวงหากำไรและธุรกิจนวัตกรรมในประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการวางผังเมืองอย่างยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความหยุ่นตัว และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นแบบปฏิบัติที่ดีที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินโครงการความร่วมมือในอนาคตได้ ทั้งนี้ AFD ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ ให้กรุงเทพมหานคร
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ ในขณะเยี่ยมชมพื้นที่ตัวอย่างความสำเร็จด้านการพัฒนาเมือง ปารีส ว่า
“ทาง AFD เชิญมานานแล้ว เรื่องที่มาดูหลายอย่างที่ได้เรียนรู้จากเขา มีคอนเซบเมือง 15 นาที การพัฒนาระบบรถไฟที่มีการลงทุนมากที่สุดในยุโรป และดูเรื่องภาวะฝุ่น การจัดการขยะ การพัฒนาย่าน ส่วนเรื่องที่จตุจัรตามตลอด ติดต่อกับผอ.(สปภ.)ตลอด ก้าวหน้าไปได้ดี ความสูงจากเดิม 26 เมตร ลดลง ด้านหลัง 8 เมตร ด้านหน้า 9 เมตร ก็ลุยต่อ ส่งกำลังใจให้ ที่มาทางนี้คือนัดไว้นานแล้วยกเลิกไม่ได้ มางานไม่ได้มาเที่ยว พยายามนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับปรุงเรื่องต่างๆ ทางฝรั่งเศสมีความร่วมมือกันมาตลอด มีโครงการพัฒนาถนนเดินได้ที่พระโขนงก็ส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วย ที่มาไม่ได้ใช้งบประมาณหลวง มา 3 วัน จะรีบกลับ”
สำหรับภารกิจในวันที่ 23 เม.ย.68 ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้หารือกับผู้แทนองค์กร Société des Grands Projets (SGP) และองค์กร La Fabrique du Métro ได้นำเสนอแผนงานใหม่ของโครงการโครงสร้างพื้นฐานระบบรางระดับชาติ โดยเฉพาะโครงการ Grand Paris Express ซึ่งเป็นเครือข่ายรถไฟใต้ดินวงแหวนขนาดใหญ่รอบกรุงปารีส พร้อมทั้งนำเสนอโมเดลเสมือนจริงของสถานีใหม่ การปรับปรุงการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ และแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนจากการก่อสร้าง รวมถึงกระบวนการวางแผน การออกแบบ และเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังระบบรถไฟใต้ดินแห่งอนาคต ซึ่งโครงการ Grand Paris Express นี้ ไม่ได้เป็นเพียงระบบขนส่งใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจของเมืองใหม่ที่ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเชื่อมโยงทุกชีวิตเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมสถานี Saint-Denis Pleyel หนึ่งในสถานีสำคัญของโครงการ Grand Paris Express ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นจุดเชื่อมต่อหลักของรถไฟใต้ดินสายใหม่ในเครือข่ายขนาดใหญ่ระดับมหานคร ตั้งอยู่ในย่าน Saint-Denis ซึ่งกำลังพัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมใหม่ของชานเมืองทางเหนือของปารีส และจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง 4 สายหลัก (สาย 14, 15, 16 และ 17) ของ Grand Paris Express โดยออกแบบให้รองรับผู้โดยสารมากกว่า 250,000 คนต่อวันในอนาคต
จากนั้น ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้หารือกับ Mr. Pierre Rabadan รองนายกเทศมนตรีกรุงปารีส และคณะผู้แทนจากสถาบันวางผังเมืองกรุงปารีส หรือ APUR (Atelier Parisien d’Urbanisme) เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในมหานครยุคใหม่และการปรับตัวของเมืองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยนักวางผังเมืองจาก APUR ได้แสดงแผน “Plan Canopée” หรือ “แผนปลูกหลังคาเขียว” ซึ่งตั้งเป้าจะเพิ่มพื้นที่ร่มไม้และพรรณพืชในเมืองให้ได้อย่างน้อย 30 เฮกตาร์ภายในปีค.ศ. 2030 โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนหลังคาอาคาร โรงเรียน ถนน และลานสาธารณะให้เป็นแหล่งสีเขียวที่มีชีวิต พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่ และสุขภาพจิตของประชาชน จากนั้น Mr. Pierre ได้นำคณะได้นำคณะเดินชมโครงการปรับเปลี่ยนถนนสายหลักให้เป็น “rues végétalisées” หรือ “ถนนสีเขียว” ซึ่งมีการปลูกต้นไม้ แปลงดอกไม้ และสร้างทางเดินเท้าที่ยั่งยืน เพื่อลดความร้อนสะสมในเมือง
นอกจากนี้ คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ประชุมหารือกับผู้แทน Paris’s Urban Cooling Operator เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการพลังงานและระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนในระดับเมือง ผ่านระบบทำความเย็นรวมศูนย์ของกรุงปารีส หรือ “Réseau de froid” เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ให้บริการทำความเย็นแก่พื้นที่ขนาดใหญ่ของเมืองด้วยวิธีที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ Fraîcheur de Paris คือเครือข่ายทำความเย็นที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยใช้พลังงานจากแหล่งธรรมชาติ เช่น น้ำจากแม่น้ำแซน ผ่านระบบแลกเปลี่ยนความเย็นและท่อลำเลียงใต้ดิน เพื่อกระจายความเย็นไปยังอาคารสำคัญกว่า 700 แห่งทั่วกรุงปารีส รวมถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ โรงพยาบาล สำนักงาน และห้างสรรพสินค้า โดยได้นำคณะเข้าชมศูนย์ควบคุมหลัก ซึ่งจัดแสดงข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับอุณหภูมิ การใช้พลังงาน และการควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี