พฐ.เข้าตรวจสภาพรถบรรทุกหลับในขับพุ่งอัดก็อปปี้ รถ SUV รถทั้ง 3 คัน สภาพพังยับเยิน ตร.ทางหลวงสันนิษฐานคนขับรถบรรทุกหลับใน เนื่องจากมีรอยเบรกสั้นๆ ช่วงก่อนถึงตัวรถ
วันที่ 25 เมษายน 2568 จากกรณีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 23+300 ฝั่งขาออก มุ่งหน้าชลบุรี ที่เกิดเหตุพบเป็นจุดพักรถ ช่องทางฉุกเฉิน เลนซ้ายสุดพบรถบรรทุกพ่วง ชนท้ายรถยนต์ สภาพถูกอัดก๊อปปี้พังเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด บริเวณที่จอดที่ร้านเก็บของกลางของสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสภาพรถทั้ง 3 คัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและหาสาเหตุของอุบัติเหตุ สำหรับสภาพรถคันเกิดเหตุทั้ง 3 คันนั้น สภาพรถ SUV นั้นพังเสียหายทั้งคัน โดยเฉพาะบริเวณช่วงท้ายรถที่อยู่ในสภาพถูกชนพังยับเยินและส่วนหน้ารถที่ถูกอัดก็อปปี้กับรถบรรทุกอีกคันได้รับความเสียหายจนหลังคาเปิด ยังมีคราบเลือดและเศษชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตกระจายอยู่เต็มรถ โดยเฉพาะชิ้นส่วนบริเวณท้ายรถที่ยังปรากฏร่องรอยคราบเลือดและเส้นผมบางส่วนของผู้เสียชีวิต และมีอุปกรณ์เครื่องใช้และอาหารที่คาดว่าเตรียมเอาไว้สำหรับเด็กที่โดยสารในรถ เช่น นมกล่อง ถ้วยโยเกิร์ต ไปจนถึงรองเท้าเด็กและข้าวสาร ที่สำคัญยังพบตุ๊กตาเด็กขนาดเล็กอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจ
ส่วนรถบรรทุกเทรลเลอร์พ่วงคันก่อเหตุ พบว่าบริเวณโซนด้านหน้าโดยเฉพาะฝั่งคนขับ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก สันนิษฐานว่า รถบรรทุกคันก่อเหตุได้เบี่ยงเอาฝั่งคนขับพุ่งชนรถ SUV และรถบรรทุกเทรลเลอร์น้ำมันที่จอดอยู่ก่อนหน้านี้แล้วรถ SUV มาชนอัดก็อปปี้ พบว่าได้รับความเสียหายบริเวณฝั่งซ้ายของรถเป็นรอยชนบุบ รวมทั้งยังปรากฏร่องรอยของคราบเลือดและเศษชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่บริเวณท้ายรถบรรทุกและบริเวณบังโคน
พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุชนสนั่นกลางมอเตอร์เวย์ รถยนต์จอดเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็ก ถูกรถบรรทุกอัดก็อปปี้ว่า รถยนต์ SUV มีผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 10 คน มาจาก จ.อุดรธานี มารับ น.ส.จารุวรรณ ซึ่งเดินทางจากประเทศเกาหลีใต้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กำลังมุ่งหน้าไปหาพ่อแม่ของเด็กผู้รอดชีวิต ที่ จ.ระยอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีรถพ่วงบรรทุกน้ำมันจอดอยู่ด้านหน้าในช่องทางฉุกเฉินหรือจุดพักรถชั่วคราวอยู่ก่อน 1 คัน คนขับรถ SUV จึงจอดรถต่อท้าย เพื่อให้คนลงมาจากรถเพื่อใช้พื้นที่เปลี่ยนแพมเพิสให้เด็กบนรถและหยิบของ
ต่อมาไม่ถึง 15 นาที มีรถบรรทุกเทรลเลอร์อีกหนึ่งคันวิ่งเข้ามาในช่องทางฉุกเฉิน แล้วเบี่ยงซ้ายพุ่งชนท้ายเข้ากับรถ SUV อย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 คน
ส่วนในทางคดียังไม่ทราบถึงสาเหตุของรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่ขับมาชนท้ายว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่จากการสันนิษฐานอาจเกิดจากการหลับใน เนื่องจากมีรอยเบรกเล็กน้อยช่วงแฉลบ แต่ยังคงต้องรอสอบปากคำคนขับรถเทเลอร์คันที่ 3 ก่อน ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนหลักฐานจากกล้องวงจรปิดขณะนี้ อยู่ในระหว่างการประสานหมวดทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวง เพื่อเอามาตรวจสอบสาเหตุและประกอบสำนวนคดี
ส่วนการสอบปากคำตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำคนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์คันที่ขับมาชน เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บสาหัสจากปากแตกและเจ็บหน้าอก รักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน
ส่วนผู้บาดเจ็บที่โดยสารมากับรถยนต์ SUV พบว่าเป็นเยาวชนอายุ 18 ปี ที่อยู่นอกตัวรถ ยังมีอาการบาดเจ็บสาหัสจากแขนหัก รักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน ขณะที่เด็กอายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งต้องรอให้สภาพจิตใจพร้อม เพราะอยู่ในอาการตื่นตกใจและอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ที่เดินทางมาจาก จ.ระยอง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำ
สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นช่องทางจอดพักรถฉุกเฉิน มีแสงสว่างเพียงพอ แต่ก็เคยเกิดอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าว ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น ทางรถบรรทุกคันที่ชนท้ายมีประกันชั้น 3 กับประกันภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. ซึ่งจะมีเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นภาคเอกชน 500,000 บาท และประกันภาคบังคับ 500,000 บาท ส่วนบริษัทเจ้าของรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุ ตำรวจได้ประสานให้เข้ามาให้ข้อมูลแล้ว ซึ่งจะมีการพูดคุยในเรื่องของการชดใช้ความเสียหายและช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายเพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี