ผบ.ตร. สั่งดูแลปูนบำเหน็จพร้อมสวัสดิการ 5 นักบินตำรวจอย่างสมเกียรติ ส่วนสาเหตุเครื่องบินตก รอตรวจกล่องดำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 15 วัน ส่วน 1 นายที่รอดชีวิตบาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้นสติ เตรียมเคลื่อนร่างทำพิธีร่วม
วันที่ 25 เมษายน 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเครื่องบินของกองบินตำรวจตกบริเวณทะเลใกล้กับสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ จนทำให้นายตำรวจเสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ลงพื้นที่ด้วยตนเองได้ไปรับทราบข้อมูลและบริหารจัดการเหตุอากาศยานที่ตกรวมทั้งเรื่องผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
อากาศยานเครื่องบินเล็กของกองบินตำรวจ มีหน้าที่สนับสนุนกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในเรื่องความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในภารกิจช่วงเช้าวันนี้ทราบว่าเป็นการทดสอบเครื่องบินเพื่อเตรียมทำภารกิจกระโดดร่ม ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งทางภาคพื้นและภาคอากาศ
ที่ผ่านมาการทดสอบภาคพื้นไม่มีปัญหาไม่มีเหตุข้อขัดข้อง จึงต้องมีการทดสอบทางอากาศเป็นขั้นตอนต่อมา เมื่อทดสอบทางอากาศทราบว่าเครื่องยกตัวขึ้นได้ในระยะไม่มากไม่ห่างจากฝั่งเพียง 100 เมตรก่อนเครื่องบินจะทิ้งตัวตกเกิดอาการเอียงขวาเข้าหาฝั่ง คาดว่านักบินและผู้ปฏบัติงานในเครื่องตัดสินใจดึงเครื่องไปทางซ้าย ไม่ให้เอียงขวาตกไปที่บ้านเรือนประชาชน จึงเกิดภาพเครื่องบินเอนฝั่งซ้ายลงทะเล
ลักษณะการลงเป็นการลงที่รุนแรง ทำให้ในห้องโดยสารเสียชีวิต 5 นาย อีก 1 นายบาดเจ็บสาหัส
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า เรื่องของทางเทคนิคที่เกิดการเอียงขวาต้องมีการสอบสวนตามกระบวนการของการบิน ตนได้สอบถามผู้การกองบินฯทราบว่ามีทีมสอบสวนของกองบินอยู่แล้วคาดว่าจะต้องมีการประสานกับสำนักการบินพลเรือนในอนาคต ซึ่งต้องใช้เวลาหาสาเหตุการที่เครื่องบินเอียง ต้องใช้เวลากว่า 15 วัน
นอกจากนี้วันนี้ที่ตนเองไปในที่เกิดเหตุได้มีการกำชับให้เร่งรีบชันสูตรพลิกศพ โดยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปที่โรงพยาบาลหัวหิน ส่วนเครื่องบินช่วงเช้าถึงสายน้ำทะเลลดลงต่อเนื่อง จึงได้ปรึกษากับตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นหน่วยหลักในการจัดการซากเครื่องบิน การดึงกลับเข้ามาจะต้องใช้เครื่องมือหนัก น่าจะใช้เวลาพอสมควรอาจจะต้องใช้เวลามากถึง 1 วัน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ตามกฎหมายร่างผู้เสียชีวิตต้องมีการชันสูตรแต่ทั้งนี้เหตุในการเสียชีวิตมีความชัดเจนอยู่แล้ว ในการทำงานแต่ละกระบวนการจากนี้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประสานกับทางครอบครัวอย่างใกล้ชิด ส่วนการบำเพ็ญกุศลทางศาสนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นเจ้าภาพให้ 1-2 คืน จากนั้นจะหารือกับแต่ละครอบครัวว่าต้องการเคลื่อนย้ายร่างกลับไปแต่ละภูมิลำเนาเดิม หรือจะประกอบพิธีร่วมกัน
“ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถือว่าเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เพราะมีคำสั่งให้ทดสอบเครื่องบิน ดังนั้นสวัสดิการจะเป็นไปตามสิทธิ์โดยชอบทุกอย่าง ตนเองได้กำชับไปในที่เกิดเหตุว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบินฯกองสวัสดิการฯ ให้ดูแลเรื่องสวัสดิการอย่างเต็มที่ทุกอย่าง ให้ทำอย่างสมเกียรติดูแลอย่างเต็มที่” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวในส่วนของร.ต.อ. จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ ผู้ที่บาดเจ็บ ขณะนี้อาการสาหัส อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือนยังไม่ได้สติ ภาพเอกซเรย์กระดูกที่เท้าขวาข้อเท้าและหน้าแข้งหัก แขนหักแพทย์ที่โรงพยาบาลหัวหิน กำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามเครื่องบินที่เกิดเหตุมาประจำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ปี 2564 ใช้งบประมาณ 2562 มีมาในรอบเดียวกัน 3 ลำ ทั้งนี้อากาศยานเหมือนรถยนต์ที่มีห้วงเวลาในการตรวจสอบตามวงรอบซ่อมบำรุง อากาศยานที่เกิดตกถือว่ายังไม่เก่าเกินใช้งาน
ตนเองทราบว่านักบินหลักผ่านการบินหลายพันชั่วโมง อยู่ในระดับครูการบิน เครื่องบินลำนี้กับนักบินหลักผูกพันกันมาก นักบินดูแลเครื่องบินลำนี้มาตลอด
สำหรับร่างผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 นาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผบ.ตร. ได้สั่งให้จัดขบวนเคลื่อนย้ายร่างทั้งหมดนำโดยกองบังคับการตำรวจจราจร ตามด้วยรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ มาทำพิธีรดน้ำศพ ที่วัดย่านวัชรพล ซึ่งเป็นวัดศิริพงศ์ ที่้ใกล้ที่ทำการกองบินตำรวจ
ในขณะที่ 1 ในผู้เสียชีวิต ร.ต.ท. ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกรประจำเครื่องบิน จากประวัติพบว่าเป็นบุตรชายของพล.ต.ท.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข อดีตที่ปรึกษา สบ.8 สพฐ.ตร. ซึ่งครอบครัวนี้มีบุตร 3 คนโดยมีบุตรคนโตเป็นผู้หญิง ปัจจุบันรับราชการตำรวจ ระดับสารวัตร สังกัดการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.ท. ธนวรรษ เป็นบุตรคนกลาง ซึ่งแต่งงานเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ส่วนบุตรคนสุดท้าย อยู่ระหว่างศึกษาระดับปริญญาโท สำหรับพล.ต.ท.ธวัชชัย เป็นหนึ่งในจำเลยคดีเปลี่ยนความเร็วรถบอส อยู่วิทยา ซึ่งศาลทุจริตฯ มีคำสั่งยกฟ้องเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี