สำนักโฆษกนำทีมคณะสื่อลงพื้นที่ด่านนครพนม ยกระดับบริการเบ็ดเสร็จ เผยยอดการค้าชายแดน 6 เดือนแรก ปี 68 มูลค่า 42,909 ล้านบาท เร่งสร้างศูนย์ขนส่งและโครงข่ายเชื่อมต่อ หนุนโลจิสติกส์ชายแดน ดันนครพนมสู่ประตูเศรษฐกิจไทย-อาเซียนเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 ที่ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม สำนักโฆษกนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ด่านศุลกากรนครพนม ศึกษาดูงานการดำเนินงานด่านศุลกากรนครพนม โดยมี นางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 และนางชนัยพร พูนน้อย นายด่านศุลกากรนครพนมให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปข้อมูลการค้าชายแดนในพื้นที่
สำหรับด่านศุลกากรนครพนมเป็นด่านศุลกากรทางบก ตั้งอยู่บริเวณโคกภูกระแต ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม อยู่ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นเขตแดน ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 มีเขตความรับผิดชอบ 2 จังหวัด คือ จ.นครพนม และ จ.สกลนคร สำหรับที่ทำการปัจจุบันเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2558 และเริ่มเปิดใช้งานในปี พ.ศ.2562
โดยด่านศุลกากรนครพนม มีจุดผ่านแดนถาวรทั้งหมด 2 แห่ง คือ 1) สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม - คำม่วน) ปัจจุบันเป็นจุดหลักในการนำเข้า - ส่งออกของสินค้าทุกประเภท และการข้ามแดนของประชาชนโดยทั่วไป เปิดทำการตั้งแต่เวลา 06.00 น.ถึง 22.00 น.ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ 2) จุดผ่านแดนถาวรอำเภอเมืองนครพนม จ.นครพนม (ด่านท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม) ปัจจุบันเป็นจุดข้ามแดนของประชาชนไทยและลาว เนื่องจากทางฝั่ง สปป.ลาว ยังมีสถานะเป็นเพียงด่านท้องถิ่น โดยเปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.00 น.ถึง 18.00 น.ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนของจุดผ่อนปรนการค้า มีทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ จุดผ่อนปรนการค้าท่าเทียบเรืออำเภอบ้านแพง จุดผ่อนปรนการค้าอำเภอท่าอุเทน จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนาดท่า อำเภอเมืองนครพนม และจุดผ่อนปรนการค้าอำเภอธาตุพนม
สำหรับสถานการณ์การค้าชายแดน มูลค่าการค้าชายแดนของด่านศุลกากรนครพนมในปีงบประมาณ 2568 (6 เดือนแรก) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 42,909 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่นำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.พลังงานไฟฟ้า จาก สปป.ลาว มีมูลค่า 2,566 ล้านบาท 2.แบตเตอรี่ จากประเทศจีน มีมูลค่า 1,811 ล้านบาท 3.ปุ๋ยเคมี จาก สปป. ลาว มีมูลค่า 1,779 ล้านบาท 4.โทรศัพท์มือถือ จากประเทศจีน มีมูลค่า 972 ล้านบาท และ 5.ของอื่นๆ ทำด้วยพลาสติก จากประเทศจีนมีมูลค่า 920 ล้านบาท
ส่วนสินค้าที่ส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรกในปีงบประมาณ 2568 (6 เดือนแรก) คือ 1.ผลไม้สด (ทุเรียน มังคุด ลำไย ตามลำดับ) ปลายทางที่ประเทศจีน มีมูลค่า 5,977 ล้านบาท 2.เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ปลายทางที่ประเทศเวียดนาม มีมูลค่า 4,956 ล้านบาท 3.โค กระบือมีชีวิต ปลายทางที่เวียดนาม มีมูลค่า 2,516 ล้านบาท 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปลายทางที่ สปป.ลาว มีมูลค่า 1,498 ล้านบาท และ 5.แผงวงจรไฟฟ้า ปลายทางที่ประเทศจีน มีมูลค่า 591 ล้านบาท
นอกจากนี้ ด่านศุลกากรนครพนมได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงาน CIQ (Customs Immigration and Quarantine) ประกอบด้วย ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจพืช ด่านกักกันสัตว์ ด่านตรวจประมง ด่านอาหารและยา และด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่าระหว่างประเทศ เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า โดยจัดให้มีจุดบริการเบ็ดเสร็จจุดเดียว และออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าโดยพาณิชย์จังหวัด ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเร็ว สนับสนุนการค้าชายแดน และกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์
ทั้งนี้ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม และโครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน - ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 - เชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม หากเปิดให้บริการ จะช่วยเพิ่มความสะดวกด้านการขนส่ง รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเสริมศักยภาพนครพนมให้เป็น “จุดยุทธศาสตร์” ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน พร้อมดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ก้าวสู่การเป็นประตูการค้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ
โอกาสนี้ สื่อมวลชนได้รับฟังรายงานสถิติการเดินทางเข้า - ออกราชอาณาจักรผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 3 และด่านท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม ในปี 2567 มีจำนวนผู้เดินทางเข้า-ออกรวมทั้งสิ้น 1,145,386 ราย ขณะที่ในปี 2568 (1 มกราคม-24 เมษายน) มีจำนวนผู้เดินทางรวม 401,073 ราย สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของจังหวัดนครพนมในฐานะประตูเชื่อมโยงการสัญจรและการค้าชายแดนระหว่างไทยกับ สปป.ลาว
จากนั้น คณะสื่อมวลชนได้เดินทางต่อไปยังสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เพื่อติดตามการปฏิบัติพิธีการนำเข้า - ส่งออกสินค้าของรถบรรทุก การดำเนินพิธีการศุลกากรเข้า-ออกชั่วคราวของรถยนต์ส่วนบุคคล ตลอดจนการตรวจสอบสัมภาระด้วยระบบเอ็กซ์เรย์สัมภาระผู้โดยสาร โดยมีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมาย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี