ตัวแทนผู้เสียหายตึก สตง. ถล่ม ยื่นหนังสือนายกสภาทนายความช่วยเหลือคดีความ และเงินเยียวยาขณะนี้ มี 21 ราย   ด้านนายกสภาฯ เผย 29 เมษายน สถานทูตจีนเตรียมส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้เหยื่อ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 เมษายน 68 ที่กองอำนวยการร่วม  สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอล ถนนกำแพงเพชร ญาติ และตัวแทนผู้เสียหายจากเหตุการณ์ อาคารสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน(สตง.)ถล่มเมื่อบ่ายวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือ ต่อดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอให้สภาทนายความให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย  และด้านอื่นๆ 

โดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ  กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมการถล่มของตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินนั้น สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างใหญ่หลวง

ในนามของสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้ประสบภัยทุกท่าน และขอเรียนว่า สภาทนายความไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจึงได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย ผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตึกถล่มขึ้น ณ บริเวณหน้าตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

ทางเราได้จัดส่งทีมทนายความเข้าไปประจำศูนย์เพื่อรับเรื่องร้องเรียน รับฟังข้อมูล และสอบข้อเท็จจริงจากผู้ประสบภัยและญาติของผู้ประสบภัยโดยตรง เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์แนวทางการดำเนินคดีอย่างรอบคอบ ทั้งในรูปแบบคดีแพ่งสามัญ หรือคดีแบบกลุ่ม (Class Action) แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละกรณี

นับจนถึงวันนี้ มีผู้ประสบภัยและญาติของผู้ประสบภัย เข้ามาให้ข้อมูลกับศูนย์ช่วยเหลือแล้วประมาณ 21 ราย ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้เสียชีวิต กลุ่มของผู้สูญหาย และกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ  ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว

ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายโดยสภาทนายความในครั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อให้ผู้ประสบภัยทุกท่านสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม

เมื่อถามว่าญาติผู้เสียหายทั้งหมดต้องการให้ช่วยเหลือในส่วนใดบ้าง ดร.วิเชียร กล่าวว่า ญาติผู้เสียหายส่วนใหญ่ต้องการให้สภาทนายความให้ความข่วยเหลือทางด้านกฎหมาย ทั้งปรึกษาคดี และการว่าความ

เมื่อถามว่าเวลาผ่านมา 1 เดือนแล้ว ทางญาติผู้เสียหายมีได้รับการเยียวยาอย่างไรบ้าง น.ส.มาลินี วัชราสิน คณะทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวทางด้านกฎหมาย สภาทนายความ กล่าวว่า จากการที่คณะทำงานของตนปฏิบัติงานมาระยะเวลา 4 สัปดาห์นั้น มีทั้งผู้ประสบภัยและญาติผู้ประสบภัย เข้ามาขอความช่วยเหลือทั้งกลุ่มที่พบร่างแล้ว และกลุ่มที่ยังไม่พบร่าง โดยทางเราได้มีการเยียวยากลุ่มผู้เสียหายที่พบร่าง โดยบริษัทที่บุคคลเหล่านั้นทำงานอยู่เยียวยารายละ 50,000 บาท และจากรัฐบาล และกลุ่มที่พบร่างแล้วจะได้รับเงินเยียวยา 100,000 บาท ซึ่งกลุ่มญาติผู้เสียหายต่างมองว่าเงินที่ได้รับการเยียวยาในครั้งนี้ยังไม่สามารถให้ความยุติธรรมกับการสูญเสียของพวกเขาได้ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่พบร่างนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะรับเงินเยียวยาได้ นอกจากเงินจำนวน 3,000 บาทที่เป็นส่วนของค่าเดินทางมาเพื่อรอรับร่าง นอกจากนี้กลุ่มที่ได้รับเงินเยียวยาไปก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ทราบทางสภาทนายความจะเข้ามาช่วยเหลือ ตนจึงอยากเรียนผ่านสื่อมวลชนให้เรื่องนี้ไปถึงกลุ่มคนเหล่านั้นเพื่อให้ติดต่อกลับมายังสภาทนายความด้วย

ดร.วิเชียร กล่าวเสริมอีกว่า เมื่อวานนี้ตนได้รับการติดต่อจาก ร.ต.อ สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(อดีเอสไอ)กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้(29 เมษายน ) สถานเอกอัครราชทูตสาธารณประชาชนจีนประจำประเทศไทย จะส่งตัวแทนบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาเจรจาชดใช้ และเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บโดยไม่ผูกพันทางข้อกฎหมาย

เมื่อถามว่าการเยียวยาโดยไม่ผูกพันทางข้อกฎหมายคืออะไร ดร.วิเชียรกล่าวว่า ในส่วนนี้หมายความว่าทางตัวแทนของบริษัทผู้รับเหมาเมื่อจ่ายเงินเยียวยาส่วนนี้ไปแล้วจะยังไม่จบในส่วนทางคดี เป็นการจัดการในส่วนเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งในส่วนของญาติผู้เสียหายถ้ามีความประสงที่จะดำเนินคดีก็สามารถที่จะดำเนินคดีได้ก่อน โดยจะจ่ายเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียหายทุกคน

เมื่อถามว่าเงินเยียวยาก้อนนี้ใช่เงินก้อนเดียวกันกับเงิน 120 ล้านบาทที่ตัวแทนผู้รับเหมาจะจ่ายให้หรือไม่นั้นดร.วิเชียร กล่าวว่า ตนยังไม่แน่ใจว่าใช่ส่วนเดียวกันหรือไม่

เมื่อถามว่าในส่วนเรื่องเงินเยียวยา ทางสภาทนายความจะมีส่วนในการเข้าไปพูดคุยเพื่อหาข้อตกลงหรือไม่ ดร.วิเชียร กล่าวว่า ตนได้รับเชิญเข้าไปพูดคุยด้วยเนื่องจากเราถือว่าเป็นส่วนของตัวแทนผู้เสียหาย ซึ่งในส่วนของตัวเลขเงินเยียวยาที่จะเข้าไปหาข้อตกลงนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้.