วันที่ 28 เมษายน 2568  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยว บริเวณรอบวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถูกคนจรจัด หรือคนเร่ร่อน เรียกเก็บเงินขณะนำรถมาจอดบริเวณรอบวัด หากไม่ให้เกรงจะได้รับอันตราย จนเกิดความหวาดกลัว อีกทั้งเป็นแหล่งมั่วสุมของคนไร้บ้าน และมักรวมตัวเสพยาเสพติด อาจไม่ปลอดภัยแก่เด็กนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจพบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญไหว้พระเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวันหยุด หรือสุดสัปดาห์ หลังจากนักท่องเที่ยวนำรถเข้าไปจอดบริเวณเกาะกลางถนน และบริเวณรอบวัดแล้ว ซึ่งสามารถจอดได้ตามปกติในเวลาที่ทางราชการกำหนด จะมีกลุ่มบุคคลทั้งชายและหญิง เข้ามาทำทีช่วยโบกรถ จากการสังเกตไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของ กทม.หรือของวัดแต่อย่างใด 

เมื่อจอดเสร็จจะมีการเรียกเก็บเงินค่าจอดราคา 20-100 บาท หากให้น้อยกว่านั้น หรือไม่ยอมจ่าย จะมีท่าทีโมโหส่งเสียงดัง และไม่รับรองความปลอดภัยของรถที่จอดอีกด้วย สร้างความหวั่นวิตกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาวัด รวมถึงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว 

ขณะเดียวกันทราบถึงพฤติกรรมของวิน จยย.หลังจากนำรถยนต์มาจอดที่บริเวณโดยรอบ สามารถจอดได้ถึงเวลา 15.00 น.เท่านั้น หากจอดเกินเวลาตำรวจจะมาเขียนใบสั่ง แล้วดำเนินการล็อกล้อทันที จากนั้นมีวิน จยย.ทำทีให้ความช่วยเหลือ โดยอ้างจะนำใบสั่งไปจ่ายให้กับตำรวจ เจ้าของรถไม่ต้องเดินทางไปเอง แลกกับค่าบริการ 100-200 บาท ทั้งที่โรงพักอยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น 

ก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกประชุมทั้ง เจ้าหน้าที่วัดสุทัศนเทพวรารามฯ ตัวแทนโรงเรียนวัดสุทัศน์, โรงเรียนเบญจมราชาลัยฯ, โรงเรียน ภารตวิทยาลัย, เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต และตำรวจจราจร ได้มีมติจะดำเนินการทุบเกาะกลางถนนออก เพื่อปรับปรุงเพิ่มเป็นที่จอดรถ และแก้ปัญหาเก็บเงินค่าจอดรถ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข