ผอ.กองคดีฮั้วฯ เผยวันนี้สอบปากคำพยาน 3 กลุ่ม ทั้งผู้แทนบ.อิตาเลียนไทยฯ กิจการร่วมค้าของ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ไขปมสัญญาก่อสร้างตึก สตง.-7 พยานวิศวกรลอตแรกจากหมายเรียกทั้งหมด 40 คน ภายใต้กิจการร่วมค้า PKW ถูกอ้างชื่อ-ปลอมลายเซ็น หลังพบเอกสารรายงานประจำสัปดาห์กว่า 20-30 สัปดาห์ และกลุ่มกรรมการ บ.ไมน์ฮาร์ทผู้ออกแบบตึก สตง. เน้นการออกแบบ รวมถึงการแก้ไขแบบ
ความคืบหน้ากรณีคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 นำโดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ(ปพ.) สอบสวนดำเนินคดีนอมินีกับบริษัทไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 และมาตรา 41 โดยมีการจับกุมฟ้องดำเนินคดีผู้ต้องหาไปแล้ว 4 ราย เป็นคนจีน 1 ราย และเป็นคนไทย 3 ราย
เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ถล่มว่า วันนี้นัดหมายสอบพยาน 3 ส่วนคือ ส่วนแรก เป็นวิศวกร 10 ราย และตัวแทนภายใต้กิจการร่วมค้า PKW ที่มีรายชื่อเป็นผู้ควบคุมงานประจำสัปดาห์ ประมาณ 20-30 สัปดาห์มีชื่อซ้ำๆของวิศวกรกลุ่มนี้รวม 51 ราย โดยออกหมายเรียกพยานเพียง 40 รายเพราะตรวจสอบพบมีชื่อซ้ำกันหลายคนในใบท.ร.14 และเรายังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคนไหน เพราะยังไม่มีรายละเอียดเลขบัตรประจำตัวประชาชน อยู่ระหว่างตรวจสอบติดตาม
สำหรับการสอบพยานในส่วนวิศวกรที่เริ่มวันนี้วันแรก 10 รายนั้น พ.ต.ท.อมรกล่าวว่า มีวิศวกรยืนยันมาพบ 7 ราย ส่วนอีก 3 รายยังติดต่อไม่ได้ และส่วนที่ 2 บริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มาให้ถ้อยคำในประเด็นที่บริษัทประมูลรับงาน โดยจะสอบรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะสอบปากคำนายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด
พ.ต.ท.อมรกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่จะใช้สอบวิศวกร มุ่งไปที่การปรากฏชื่อเป็นผู้ควบคุมงานเป็นประจำสัปดาห์หลายสัปดาห์ เพื่อสอบถามความเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นการถูกปลอมและแอบอ้างชื่อทั้งหมดทุกคนหรือไม่ ส่วนกรณีเอกสาร 100 ลังที่ดีเอสไอยึดจาก 24 ตู้คอนเทนเนอร์ในไซต์งาน สตง.นั้น เกี่ยวข้องกับหลายส่วน ดังนั้น ขั้นตอนถัดไปเราต้องมาคัดแยกเอกสารทั้งหมดก่อนว่าเอกสารใดเป็นเอกสารเกี่ยวกับสัญญา เอกสารแบบแปลน เอกสารด้านการเงิน เอกสารเกี่ยวกับวัสดุ เอกสารการสั่งซื้อ เพราะเมื่อวันที่ 28 เมษายน เราพบเอกสารการสั่งซื้อปูนบางส่วน จึงต้องเอาเอกสารทั้งหมดมาคัดแยก และจะเชิญเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมืองมาร่วมตรวจสอบเอกสารด้วย พ.ต.ท.อมรยังกล่าวถึงการเชิญตัวแทนบริษัทอิตาเลียนไทยฯ มาสอบปากคำวันนี้ เราจะสอบถามทั้งหมดทุกประเด็น ตั้งแต่การซื้อซอง การประมูลงาน การเป็นกิจการร่วมค้า การแบ่งงาน การดำเนินการก่อสร้างแบ่งงานอย่างไร รวมถึงเรื่องค่าตอบแทนแบ่งกันอย่างไร นอกจากนี้ ในการเป็นกิจการร่วมค้าระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทยฯ และบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ซึ่งเบื้องต้นตอนที่เขาทำบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ มีสัดส่วนคนไทย 51% ต่อคนต่างชาติถือหุ้น 49% แต่เราดำเนินคดีนอมินีไปส่วนหนึ่งแล้ว ดังนั้น การเป็นกิจการร่วมค้าของทั้งคู่ ณ ขณะนั้นบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ อ้างเป็นบริษัทไทย เพราะมารวมกับบริษัท อิตาเลียนไทยฯ แต่เราก็ต้องไปพิสูจน์ว่าบริษัทเป็นสัญชาติไทยจริงหรือไม่ จึงเกิดการดำเนินคดีนอมินีขึ้นมา
“สำหรับกรณีมีการประมูลได้งาน แต่ไปจ้างผู้รับเหมาช่วงต่างนั้น ตอนประมูลหรือตอนรับงาน ตอนเซ็นสัญญา คือช่วงเวลาหนึ่ง แต่พอได้งานมาแล้ว มีการรับเหมาช่วงหรือไม่ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนนี้เราก็ต้องสอบสวนปากคำเช่นกัน“ ผอ.กองคดีฮั้วประมูล ระบุและว่า กรณีกิจการร่วมค้า PKW ที่มีรายงานว่าไม่มีคุณสมบัติเข้าองค์ประกอบเป็นที่ปรึกษานั้น ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นได้หรือไม่ที่บริษัทอิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการได้งานโครงการของรัฐโครงการเดียว เพราะอาจเกี่ยวข้องกันมานาน พ.ต.ท.อมรเผยว่า เป็นอีกประเด็นที่เราจะใช้สอบถาม ส่วนจากนี้พยานที่ดีเอสไอสอบปากคำไป จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ดูข้อมูลก่อน เพราะตอนนี้เราเรียกมาสอบในฐานะพยาน ต้องพิจารณาเนื้อหาคำให้การและเอกสารชี้แจง
พ.ต.ท.อมรยังกล่าวถึงการสอบปากคำนายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการบริษัท ไมนฮาร์ทฯว่า จะเกี่ยวข้องกับประเด็นการออกแบบตึก สตง. โดยจะไล่เรียงตั้งแต่ช่วงแรกของการรับงานมา เพราะตามข้อมูลทราบว่าบริษัทผู้ออกแบบมี 2 ราย คือ บริษัทฟอ-รัมอาร์คิเทค จำกัด และบริษัทไมนฮาร์ท(ประเทศไทย) จำกัด ส่วนการแก้แบบทั้ง 9 ครั้งที่ดีเอสไอตรวจพบในเอกสารว่ามีปัญหาในการขอแก้แบบครั้งที่ 4 และครั้งที่ 6 นั้น เรื่องนี้ถือเป็นช่วงต้น ส่วนการขอแก้แบบเป็นช่วงการดำเนินการ แต่จะเกี่ยวข้องหรือรู้อะไรกันอย่างไรบ้าง ต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ กรณีนายพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ดีเอสไอสอบปากคำไปแล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นลายเซ็นของตัวเองจริง แต่รายละเอียดเชิงลึกขอสงวนไว้ในสำนวน ซึ่งก่อนหน้านี้บอกว่าจำรายละเอียดไม่ได้ เหมือนกลับไปทบทวน เขาเลยให้การว่าเกี่ยวข้องบางส่วน
เวลา 13.10 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการของบริษัทไมนฮาร์ท(ประเทศไทย)จำกัด ในฐานะหัวหน้าผู้ออกแบบ พร้อมทีมกฎหมาย ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีสัญญาการออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารสตง. เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทมีส่วนแก้ไขแบบของอาคารสตง.หรือไม่ นายธีระ ระบุว่า ขอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ วันนี้นำเอกสารหลายอย่างมายื่นให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเอกสารเดิมที่เคยชี้แจงไปแล้ว แต่วันนี้จะขอชี้แจงให้กระจ่าง
ต่อมาเวลา 13.40 น. นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ซึ่งให้ปากคำกับดีเอสไอในฐานะพยานยังไม่เสร็จ ได้ออกมาเข้าห้องน้ำ สื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงการชี้แจงนายเกรียงศักดิ์ตอบว่า เป็นไปด้วยดี วันนี้คุยแค่เรื่องนอมินี ส่วนความมั่นใจขนาดไหนนั้น ตรงนี้จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนถามว่า มีการสอบปากคำเรื่องเกี่ยวกับการประมูลโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.ด้วยหรือไม่นายเกรียงศักดิ์ ยอมรับว่ามีเล็กน้อย ถามอีกว่านอกจากโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. บริษัทอิตาเลียนฯร่วมงานกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯในโครงการอื่นอีกหรือไม่ แต่นายเกรียงศักดิ์ไม่ได้ตอบคำถาม
เวลา 17.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดี ดีเอสไอ นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสด์ รอง ผบช.น. ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ร่วมหารือข้อเสนอแนวทางการเยียวยาด้านมนุษยธรรมผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอาคาร สตง. ถล่ม กับตัวแทนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี